รวบ 7 ผู้ต้องหา ขบวนการค้ายา เจอยาไอซ์ 14 กระสอบ 631 กก.

25 ก.ค. 2565 | 06:37 น.

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด รวบ 7 ผู้ต้องหา ขบวนการค้ายา เจอยาไอซ์ 14 กระสอบ 631 กก. เตรียมส่งให้เครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

พล.ต.อ.รอย  อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.(ปป.)และผู้อำนวยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศอ.ปส.ตร.)ได้เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. ว่าเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ตำรวจกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง  จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 7 คน

รวบ 7 ผู้ต้องหา ขบวนการค้ายา เจอยาไอซ์ 14 กระสอบ  631 กก.

ได้แก่ 1.นายลุกมัน หรือมัน อายุ 39 ปี ที่อยู่ ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส 2.นางสาววนิดา หรือดา อายุ 40 ปี ที่อยู่ ตำบลสะบารัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี 3. นายแวแม หรือแม  อายุ 38 ปี ที่อยู่ ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส 4.นายดากี หรือกี  อายุ 37 ปี ที่อยู่ ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส 5.นายอาลาดิง หรือหวัง  อายุ 32 ปี ที่อยู่ ตำบลกาลิซา อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส 6.นายมะเปาซี หรือนูซี  อายุ 24 ปี ที่อยู่ ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส และ7.นายนครินทร์ หรือมีน อายุ 33 ปี ที่อยู่ ตำบลตันหยงลิมอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส

พร้อมด้วยของกลาง ได้แก่ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 14,กระสอบ น้ำหนักประมาณ  631 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ท้ายกระบะบรรทุกรถยนต์

 

การสืบสวนพบว่า พบว่า นายนครินทร์ เป็นนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีการลำเลียงยาเสพติดมาจากพื้นที่ภาคกลางไปส่งให้กับเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยซุกซ่อนยาเสพติดมากับรถยนต์กระบะยี่ห้อมิชซูบิชิ และจะใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีขาว และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทำหน้าที่เป็นรถนำทางเพื่อตรวจการณ์การตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ ตำรวจจัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์และจัดกำลังสะกดรอยติดตาม จนสามารถจับกุม

รวบ 7 ผู้ต้องหา ขบวนการค้ายา เจอยาไอซ์ 14 กระสอบ  631 กก.

พบยาเสพติดเป็นยาเสพติด ไอซ์หนักประมาณ 631 กิโลกรัม เตรียมส่งให้กับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ที่ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส  จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”

 

จากนั้นนำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 ดำเนินคดี พร้อมทั้งได้กำชับให้สืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไป