"ฝีดาษลิง"ล่าสุดพบเด็กติดเชื้อครั้งแรกในสหรัฐฯ น่ากลัวแค่ไหน อ่านเลย

23 ก.ค. 2565 | 21:11 น.

"ฝีดาษลิง"ล่าสุดพบเด็กติดเชื้อครั้งแรกในสหรัฐฯ น่ากลัวแค่ไหน อ่านเลยที่นี่มีคำตอบ หมอเฉลิมชัยชี้การระบาดรอบนี้เปลี่ยนแปลงหลายประการ

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

ล่าสุด !! สหรัฐฯพบเด็กติดฝีดาษลิงเป็นครั้งแรกของประเทศ

 

นับจากเดือนพฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา ฝีดาษลิงได้มีการระบาดออกนอกเขตทวีปแอฟริกา (ซึ่งเป็นโรคประจำถิ่นเดิม)

 

ทำให้สถานการณ์ของฝีดาษลิงเปลี่ยนแปลงไปมาก

 

สืบเนื่องจากในอดีต นับตั้งแต่ 60 ปีก่อนที่เริ่มมีฝีดาษลิงในทวีปแอฟริกา มักจะพบว่า ผู้ติดเชื้อจะเกิดขึ้นในทวีปแอฟริกา หรือถ้าจะพบในภูมิภาคอื่น ก็จะมีประวัติเดินทางมาจากแอฟริกา หรือสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อของแอฟริกา

 

แต่การระบาด (Outbreak) ในครั้งนี้ พบการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายประการได้แก่

 

  • ผู้ติดเชื้อเกือบทั้งหมดที่พบนอกทวีปแอฟริกา เกิดจากการติดกันเอง(Local Transmission) โดยที่ไม่มีประวัติเดินทางไปทวีปแอฟริกา
  • ผู้ติดเชื้อเกือบทั้งหมด (ประมาณ 99%) เป็นเพศชาย
  • ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน (MSM)
  • พบผื่นที่เกิดขึ้นในโรคนี้เปลี่ยนแปลง จากบริเวณแขนขาลำตัว ไปเป็นที่บริเวณอวัยวะเพศและรอบทวารหนัก ทำให้เกิดโรคได้จากการมีเพศสัมพันธ์

 

ที่ผ่านมา ไม่ค่อยพบในเด็กมากนัก แต่จากรายงานในทวีปแอฟริกา เด็กเมื่อเป็นฝีดาษลิงจะมีอาการที่รุนแรงมากกว่าผู้ใหญ่ อาจจะเป็นจากผู้ใหญ่ที่มีอายุมาก มักจะมีภูมิคุ้มกันจากการปลูกฝีป้องกันฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษมาแล้ว

 

ขณะนี้สหรัฐฯ ได้รายงานล่าสุดถึงเด็กสองรายแรกของประเทศ ที่เป็นฝีดาษลิง

 

  • รายที่ 1 เป็นเด็กวัยเตาะแตะอายุ 1-3 ขวบ(Toddler) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
  • รายที่ 2 เป็นทารกอายุไม่ถึง 1 ขวบ(Infant ) ที่ไม่ใช่คนอเมริกันแต่เดินทาง

 

ผ่านมาที่เมืองวอชิงตันดีซี

 

"ฝีดาษลิง"ล่าสุดพบเด็กติดเชื้อครั้งแรกในสหรัฐฯ

 

ทางการสหรัฐฯยังไม่สามารถให้คำตอบว่า เด็กทั้งสองรายนี้ ติดเชื้อได้อย่างไร แล้วติดมาจากที่ไหน

 

แต่เนื่องจากมีอาการ จึงได้ให้การรักษาแล้วโดยให้ยาต้านไวรัสชื่อTPOXX : Tecovirimat ผลลัพธ์ออกมาค่อนข้างดี

 

สถานการณ์ของสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน มีการติดฝีดาษลิงไปแล้ว 44 รัฐ ผู้ติดเชื้อมากกว่า 2500 คน

 

และสถานการณ์ของโลก ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็น 72 ประเทศ ผู้ติดเชื้อมากกว่า 15,000 คน

ทางการสหรัฐฯ ได้เร่งทำการสั่งวัคซีนรุ่นที่สามจากเดนมาร์ก (Jynneos) มาแล้ว จำนวน 300,000 โดส

 

ซึ่งเป็นการฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนัง ไม่ใช่การปลูกฝีแบบเดิม แต่ต้องฉีด 2 เข็มห่างกัน 4 สัปดาห์

 

สหรัฐอเมริกาเองกำลังเร่งประชุม ในทำนองเดียวกับองค์การอนามัยโลก เพื่อพิจารณาว่า อาจจะมีการประกาศให้ฝีดาษลิงเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุข ทำนองเดียวกับที่เคยประกาศโควิดในช่วงแรก

 

สำหรับประเทศไทย หลังจากที่พบผู้ติดฝีดาษลิงรายแรกเป็นชาวไนจีเรีย และหลบหนีจากการรักษา ล่าสุดได้ข่าวว่าเดินทางไปเขมรแล้วนั้น

 

มีสิ่งที่จะต้องติดตามสอบสวนโรคให้ชัดเจนว่า ผู้ติดเชื้อไนจีเรียดังกล่าวอาจจะไม่ใช่คนแรกหรือเคสแรก เพราะมีประวัติไปใช้บริการในสถานบันเทิงที่จังหวัดภูเก็ต อาจจะมีกลุ่มหญิงหรือชายที่ให้บริการ  เป็นผู้นำเชื้อมาให้กับชายไนจีเรียดังกล่าว

 

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง การเร่งสอบสวนหากลุ่มผู้ติดฝีดาษลิงในไทยที่มีอยู่ก่อนแล้ว ก็จะมีความจำเป็นอย่างมาก เพื่อจะควบคุมสถานการณ์ฝีดาษลิงไว้ให้ได้