ปลดล็อกกัญชาสูบได้ไหม ข้อควรระวังมีอะไรบ้าง เช็คเลย

09 มิ.ย. 2565 | 02:54 น.

ปลดล็อกกัญชาสูบได้ไหม ข้อควรระวังมีอะไรบ้าง เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หลังวันที่ 9 มิ.ย. 65 กัญชาทุกส่วน รวมถึงช่อดอกซึ่งมี THC สูงจะไม่ถูกกำกับดูแลในฐานะสิ่งเสพติดในประเทศไทย

ปลดล็อกกัญชาสูบได้ไหม ข้อควรระวังมีอะไรบ้าง กำลังเป็นคำถามมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หลังกัญชาจะถูกปลดล็อกในวันนี้ (9 มิ.ย.)

 

ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก Ramathibodi Poison Center ว่า
ข้อระวังการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา ฉบับ 6 มิถุนายน 2565

 

ตั้งแต่ 9 มิ.ย.65 นี้ กัญชาทุกส่วน รวมถึง “ช่อดอกซึ่งมี THC สูง” จะไม่ถูกกำกับดูแลในฐานะสิ่งเสพติดในประเทศไทย และจะไม่มีกฎหมายกำกับดูแลการใช้ ไม่มีข้อจำกัดในการวางขายในช่องทางต่างๆ ไม่มีอายุที่ห้ามซื้อขาย

 

ไม่มีสถานที่ห้ามเสพที่ชัดเจน จนกว่าจะมีกฎหมายที่กำกับดูแลการจัดการกัญชาให้ปลอดภัยแก่ประชาชนซึ่งตอนนี้ยังเป็นร่างพระราชบัญญัติไม่มีผลบังคับใช้ในทางปฏิบัติเนื่องจากยังไม่เข้าวาระการพิจารณาในสภา 

 

ในประเทศที่เสรีกัญชาแบบเสพสันทนาการได้เขาจะมีการกำกับดูแลด้านต่างๆให้มีความปลอดภัยเช่นด้านการผลิต การตรวจคุณภาพผลิตภัณฑ์ คุณภาพฉลากและหีบห่อ ช่องทางการซื้อขาย การจำกัดอายุและการเข้าถึงเด็ก เป็นต้น

 

ในช่วงที่ พรบ.กัญชายังไม่ออกการกำกับดูแลในประเทศไทยจะไม่ระบุว่ากัญชาเป็นยาเสพติด....แต่ไม่อาจเปลี่ยนความจริงที่ว่าสาร THC ที่พบใน “ช่อดอกกัญชา” มีฤทธิ์ทำให้เกิดการเสพติด เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคทางจิตประสาท และมีผลกระทบต่อสุขภาพในระบบต่างๆ

ที่สำคัญคือ ควันจากการสูบกัญชาที่มี THC นี้ สามารถทำให้คนรอบตัวได้รับสาร THC เข้าสู่ร่างกายได้ เป็นกัญชามือสอง เช่นเดียวกับบุหรี่มือสอง ทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก โดยสามารถตรวจพบสารและในบางการศึกษาพบว่าผู้ได้รับควันมือสองนี้มีอาการมึนเมาและอาการระคายเคืองจากควันร่วมด้วย 

 

นี่ยังไม่ถึงวันที่ 9 มิ.ย. เลยลองหา “กัญชา” ในช่องทางโซเชียลต่างๆท่านจะพบว่ามันมีขายผลิตภัณฑ์เพื่อการเสพ THC หลากหลายรูปแบบโดยไม่มีมาตรฐานกำกับดูแล อาจมีสารปนเปื้อนและเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงสารละลายในแบบบุหรี่ไฟฟ้าที่เคยสัมพันธ์กับการปอดอักเสบในประเทศสหรัฐอเมริกาก็มี 

 

หากจะกล่าวว่ามีการกระจายของ THC สู่สังคมมากขึ้นแล้วก็คงจะไม่เกินจริงนัก 

 

ปลดล็อกกัญชาสูบได้ไหม ข้อควรระวังมีอะไรบ้าง

 

ในช่วงที่ไม่มีการกำกับดูแล...การป้องกันตนเองและคนที่คุณรักจึงเป็นสิ่งที่เรา “ต้องรู้เท่าทันและระวังความปลอดภัยด้วยตนเอง” จนกว่า พรบ. จะออกมา (หวังว่าจะออกมาได้โดยเร็ว) หรือจะมีการเลื่อนการปลดล็อคออกไป (ซึ่งเข้าใจว่าไม่ทันแล้วล่ะ)
 

ในช่วงนี้เราควรระมัดระวังเรื่องอะไรกันบ้าง 

 

  • ก่อนจะใช้กัญชาควรศึกษาความเสี่ยงของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อตนเองในระยะสั้นและระยะยาว ผู้มีโรคประจำตัวปรึกษาแพทย์ก่อนโดยเฉพาะผู้มีโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางระบบประสาท โรคทางจิตเวช โรคปอด และอย่าลืมเชคว่ายาประจำตัวของเราจะตีกับกัญชาหรือจะถูกสารกัญชารบกวนจนเกิดผลร้ายไหม

 

  • หากอายุน้อยกว่า 25 ปี อย่าใช้ช่อดอกกัญชาหรือสาร THC เนื่องจากมีโอกาสเกิดปัญหาต่อการพัฒนาทักษะด้านต่างๆทางสมอง โดยเฉพาะด้านการคิดอย่างมีเหตุผลซึ่งพบว่าหากมีการเสื่อมแล้ว แม้หยุดกัญชานานเป็นปีก็ไม่อาจคืนกลับเป็นปกติ (ส่วนทักษะทางภาษาและความจำระยะสั้นสามารถกลับคืนเมื่อหยุดเสพกัญชาได้)

 

  • หากคิดแล้วอยากจะลองใช้จริงๆ ก็ขอให้เริ่มแบบ THC (สารเมาหลอนและเสพติด) ปริมาณน้อย ใครท้าก็อย่าหน้าใหญ่ ใจใหญ่ลอง THC เข้มข้น...ไม่งั้นอาจเสี่ยงได้นอนหน้าสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะในห้องฉุกเฉินหรือ ICU ได้ 

 

  • การสูบกัญชาแบบเผาไหม้ บารากุ หรือแบบบุหรี่ไฟฟ้าล้วนเกิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจและเยื่อบุได้ ซึ่งอาจเกิดได้ทั้งจากตัวกัญชา สารละลาย หรือสารปนเปื้อนอื่น หากมีอาการควรหยุดสูบในทันที

 

  • ผู้ที่จะทดลองสูบ กรูณาสูบอย่าลึกมาก และอย่าอัด-กลั้นไว้ในปอด เพราะจะได้รับปริมาณสารเข้าสู่ร่างกายเยอะ ทั้งสาร THC และสารระคายเคืองต่างๆที่ระคายเคืองทางเดินหายใจ

 

  • คนรอบตัวที่ไม่ได้สูบยังอาจได้รับควันกัญชาได้ ฉะนั้นควรสูบในที่จัดเป็นสัดส่วนของคนสูบกันเอง เลี่ยงการสูบในที่มีเด็ก คนท้อง หรือผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ 

 

  • หากใช้กัญชาแล้ว พยายามใช้แต่น้อย และติดตามการใช้ของตนเอง หากจู่ๆเริ่มใช้บ่อยขึ้นเยอะขึ้น เริ่มทำใจไม่ใช้ลำบาก เริ่มเสียเงินกับกัญชาเยอะ หรือเริ่มคิดถึงการใช้กัญชามากจนรบกวรการทำงาน การดำเนินชีวิต หรือความสัมพันธ์กับคนรอบตัว ต้องระวังว่ามีการติดกัญชาแล้ว ลองปรึกษาแพทย์เพื่อควบคุมการใช้กัญชาไม่ให้ติดจนรบกวนการดำเนินชีวิตมากไปกว่านั้น หากเห็นคนมีลักษณะนี้ลองหาทางพูดคุยอย่างเป็นมิตรให้เขาพิจารณาปรึกษาแพทย์ จะติดสารอะไรเขาก็ยังเป็นเพื่อนเป็นญาติพี่น้องเราและการติดเป็นสภาวะที่ดูแลรักษาได้ หากแนะนำแล้วยังไม่ได้ผลทันทีอย่าท้อใจ เราพูดอาจจะได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่หากเราไม่พูดเลยก็เท่ากับตัดโอกาสการทบทวนตนเองของเขา

 

  • การขับขี่ยานพาหนะขณะที่มีอาการข้างเคียงจากการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นต้องแนะนำให้งดการขับขี่ยานพาหนะหรือการทำงานกับเครื่องจักรไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง หลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาและการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาร่วมกับการดื่มสุราจะทำให้ความสามารถในการขับยานพาหนะลดลงมาก ดังนั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด  แม้จะไม่มีการห้ามเสพขณะขับขี่บานพาหนะในช่วงที่ พรบ.ยังไม่ออก แต่หากก่อให้เกิดอุบัติเหตุก็ยังผิดในฐานะขับรถโดยประมาท

 

  • การเลือกผลิตภัณฑ์กัญชา ควรเลือกที่มีความน่าเชื่อถือ ในต่างประเทศที่มีกติกากำกับดูแลผลิตภัณฑ์ จะมีการตรวจสารปนเปื้อน เชื้อโรค และยืนยันระดับสารว่าตรงกับที่ฉลากระบุ ซึ่งก็มีการคัดออกผลิตภัณฑ์ที่มีเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เศษปฏิกูลต่างๆออกอยู่

 

 

  • ข้อนี้สำคัญมาก ในต่างประเทศที่ยอมให้มีอาหารหรือขนมผสมกัญชาที่มี THC สูง มีข่าวที่มีการบาดเจ็บจากการกินบราวนี่กัญชาทั้งที่ผู้ซื้อเขาจงใจซื้อบราวนี่ธรรมดามากินกับลูกแต่กลายเป็นต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะพิษ THC หากจะซื้อขนมมากินกรุณาเชคให้แน่ใจว่าเป็นขนมแบบที่เราตั้งใจจะซื้อมากินจริงๆ หากเจอคนรอบตัวบาดเจ็บจากผลิตภัณฑ์อาหารหรือขนมใส่กัญชาโดยที่เจ้าตัวเขาจงใจจะซื้ออาหารหรือขนมธรรมดา (ปนเปื้อนกัญชา หรือใส่กัญชาโดยไม่แจ้งผู้บริโภค) ตั้งสติเก็บรายละเอียดช่องทางการซื้อขาย ผลิตภัณฑ์ที่เหลือ รวมถึงหีบห่อ และติดต่อสายด่วนคุ้มครองผู้บริโภค หรือนำส่งที่โรงพยาบาล พร้อมกับผู้ป่วย เพื่อป้องกันการกระจายของผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อน THC โดยไม่ระบุเหล่านี้

 

ในช่วงเวลานี้ความรู้และสติเท่านั้นที่จะเป็นเกราะป้องกันเราและคนที่เรารักษาจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ในช่วงที่ยังไม่มีการกำกับดูแลการจัดการกัญชา

 

หวังว่า พรบ. กำกับดูแล จะออกมาโดยเร็วที่สุดและมีความรัดกุมเพียงพอเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยแก่สังคม

 

สุดท้ายขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย ห่างไกลโรคและการบาดเจ็บทั้งปวง