โควิดวันนี้เทียบโอมิครอน เดลตา 5 เดือนติดเชื้อมากแค่ไหน ตายเท่าไหร่ เช็คเลย

31 พ.ค. 2565 | 21:11 น.

โควิดวันนี้เทียบโอมิครอน เดลตา 5 เดือนติดเชื้อมากแค่ไหน ตายเท่าไหร่ เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หมอเฉลิมชัยเผยข้อมูลหลังไทยเข้าสู่โควิดระลอกที่ 4 เมื่อ 1 ม.ค. 65

โควิดวันนี้ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชาชน ทั้งจำนวนของผู้ติดเชื้อในแต่ละวัน โดยเฉพาะจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริง 

 

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

5 เดือนเต็มกับไวรัสโอมิครอน ติดเชื้อเร็วกว่าเดลตา 3.3 เท่า แต่เสียชีวิตน้อยกว่า 4.7 เท่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั้งหมดเกือบ 4,000,000 คน

 

หลังจากที่ประเทศไทยเข้าสู่โควิดระลอกที่ 4 จากไวรัสโอมิครอน เมื่อ 1 มกราคม 2565

 

จนถึงวันนี้ (31 พฤษภาคม 2565) นับเป็นเวลา 5 เดือนเต็ม ลองมาดูข้อสรุปของไวรัสโอมิครอนในรอบ 5 เดือน ดังนี้

  • ไวรัสโอมิครอน ติดเชื้อได้เร็วกว่าไวรัสเดลตา 3.3 เท่า โดยพบว่า

 

ไวรัสเดลตาติดเชื้อแบบ PCR รวมทั้งสิ้น 2,194,572 ราย ในช่วงระยะเวลา 9 เดือน หรือ 275 วัน นับตั้งแต่ 1 เมษายนถึง 31 ธันวาคม 2564

 

ในขณะที่ไวรัสโอมิครอนติดเชื้อจำนวนเท่ากับไวรัสเดลต้า ใช้เวลา เพียง 144 วัน ตั้งแต่ 1 มกราคมถึง 24 พฤษภาคม 2565

 

โควิดวันนี้เทียบโอมิครอน เดลตา 5 เดือนติดเชื้อมากแค่ไหน ตายเท่าไหร่

 

และเมื่อรวมจำนวนผู้ติดเชื้อแบบ ATK ด้วยแล้ว จะพบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อเทียบเท่าไวรัสเดลต้า ในช่วงเวลาเพียง 84 วัน คือ 1 มกราคมถึง 25 มีนาคม 2565

 

  • ไวรัสโอมิครอนทำให้เสียชีวิตน้อยกว่าไวรัสเดลตา 4.7 เท่า

 

โดยที่ไวรัสเดลตาเสียชีวิต 21,604 คน ในเวลา 275 วัน หรือ 9 เดือน

 

ส่วนไวรัสโอมิครอนเสียชีวิต 8321 คน ในเวลา 151 วัน หรือ 5 เดือน

  • ตลอด 5 เดือนเต็มที่มานั้น มีผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนไปแล้วทั้งสิ้นเกือบ 4,000,000 ราย (3,983,371 ราย) แบ่งเป็น

 

ติดเชื้อแบบ PCR 2,227,022 ราย

 

ติดเชื้อแบบ ATK 1,756,349 ราย

 

คงจะเป็นการรายงานตัวเลขในลักษณะนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว

 

เพราะนับตั้งแต่พรุ่งนี้คือ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป การรายงานจะเปลี่ยนเป็น

 

รายงานจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการจนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเท่านั้น
จะไม่รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อแบบเดิมอีกต่อไป ทำให้ตัวเลขการรายงานโควิด ลดลงอย่างมีนัยสำคัญต่อไป