โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) ปลูกฝีป้องกันได้ไหม ต้องมีลักษณะอย่างไร เช็กเลย

23 พ.ค. 2565 | 20:11 น.

โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) ปลูกฝีป้องกันได้ไหม ต้องมีลักษณะอย่างไร เช็กเลยที่นี่มีคำตอบ หมอเฉลิมชัยเผยผลวิจัยวารสารการแพทย์ชั้นนำ New England Journal of Medicine

โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) คืออะไร ติดต่อทางไหน อาการเป็นอย่างไร มีวิธีป้องกันหรือไม่ เป็นคำถามที่กำลังได้รับความสนใจบนโลกออนไลน์ หลังจากที่หลายประเทศเริ่มมีผู้ป่วยเกิดขึ้น

 

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

ข่าวดี !! ผู้สูงอายุที่ปลูกฝีป้องกันฝีดาษเมื่อกว่า 50 ปีก่อน ยังคงมีภูมิคุ้มกันในระดับสูง มีครึ่งอายุ(Half life)นานถึง 92 ปี ( Half life : ระยะเวลาที่ระดับภูมิคุ้มกันลดลงเหลือ 50% )

 

จากกรณีที่มีข่าวการระบาดของฝีดาษลิงใน 15 ประเทศทั่วโลก (นอกทวีปแอฟริกา)

 

และพบว่าวัคซีนหรือการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษในคน สามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้มากถึง 85% นั้น

 

โดยเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า โลกเราได้หยุดการปลูกฝีมานานกว่า 40-50 ปีแล้ว 
เพราะวงการสาธารณสุขสามารถกำจัดโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษให้หมดสิ้นไปได้

 

ทำให้คนที่อายุน้อยกว่า 40-50 ปี ล้วนแต่ไม่มีภูมิคุ้มกันสำหรับไข้ทรพิษหรือฝีดาษ

แต่คำถามที่น่าสนใจก็คือ ผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเกือบทุกคนจะได้รับการปลูกฝีตอนเด็กมาแล้ว จะยังคงมีภูมิคุ้มกันที่ป้องกันฝีดาษในคนรวมทั้งฝีดาษในลิงได้มากน้อยเพียงใด

 

มีรายงานการศึกษาวิจัยถึงระดับภูมิคุ้มกันหลังจากฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษ ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ชั้นนำคือ New England Journal of Medicine พบข่าวดีว่า

 

ในการศึกษาติดตามอาสาสมัครจำนวน 45 ราย ซึ่งมีอายุเฉลี่ย 37 ปี 

 

โดยติดตามนานเฉลี่ย 15.2 ปี และมีการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อดูระดับภูมิคุ้มกันเป็นระยะถึง 11 ครั้งนั้น

 

โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) ปลูกฝีป้องกันได้ไหม

 

พบว่า เฉพาะในระดับภูมิคุ้มกันต่อฝีดาษหรือไข้ทรพิษ จะมีการลดลงช้ามาก 

 

โดยจะมีครึ่งชีวิตนานถึง 92 ปี แยกเป็นในผู้ชาย 99 ปี และในผู้หญิง 85 ปี

 

ดังนั้นผู้ที่ฉีดวัคซีนเมื่อ 50 ปีก่อน ในขณะนี้ก็จะมีระดับภูมิคุ้มกันสูงเพียงพอที่จะสามารถป้องกันฝีดาษในลิงได้ นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้สูงอายุทั้งหลาย
 

ส่วนผู้ที่อายุน้อยกว่าปี 50 ปี แม้จะมีแผลเป็นที่ต้นแขนหรือสะโพก ก็ไม่ใช่การปลูกฝีป้องกันฝีดาษ  

 

หากแต่เป็นการปลูกฝีหรือฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรค ซึ่งจะมีแผลเป็นเช่นกัน
โดยแผลเป็นของวัคซีนป้องกันวัณโรคจะค่อนข้างนูน 

 

ส่วนแผลเป็นจากการปลูกฝีป้องกันฝีดาษจะค่อนข้างเรียบหรือเป็นหลุมลงไปเล็กน้อย

 

อย่างไรก็ตาม คงจะต้องติดตามการระบาดของฝีดาษในลิงว่า มีมากน้อยเพียงใด 
และจำเป็นที่จะต้องมีการฉีดวัคซีนให้กับคนที่อายุน้อยกว่า 50 ปีหรือไม่อย่างไรต่อไป