ไทยนิวส์ ครบรอบ 2 ปี พร้อมดันทุกแพลตฟอร์มข่าว-วาไรตี้สู่สังคม

09 พ.ค. 2565 | 04:36 น.

ไทยนิวส์ ครบรอบ 2 ปี ประกาศก้าวต่อไปอย่างมั่นคง ดันทุกแพลตฟอร์มข่าว และวาไรตี้สู่สังคมให้เกิดความเป็นธรรม ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ พร้อมคัดเรื่องราวดี ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

นายปิยวิทย์ ดำรงสัตย์ ผู้อำนวยการอาวุโสไทยนิวส์ เปิดเผยในงานครบรอบ 2 ปี ไทยนิวส์ ว่า ไทยนิวส์เกิดมาในยุคดิจิทัล เป็นยุคที่ข่าวสารอยู่บนโลกออนไลน์ ซึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไป สังคมบนออนไลน์เป็นสังคมที่ยิ่งใหญ่และฉับไว ไทยนิวส์จึงเป็นสื่อโซเชียลนิวส์ที่พร้อมตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ในยุคนี้ 

 

“ทุกวันนี้เรามีข่าวสารมากมายทั้งเรื่องราวดี ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม หรือการทวงถามความยุติธรรมกับสังคมที่บิดเบี้ยวไปมา ซึ่งไทยนิวส์พร้อมเป็นกระบอกเสียงที่พร้อมหยิบยกเรื่องเหล่านั้นมานำเสนอให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม และนอกจากข่าวบนโซเชียลนิวส์แล้ว ยังมีทีมข่าว และบรรณาธิการข่าวที่เกาะติดข่าวสารทุกความเคลื่อนไหว พร้อมมีข่าวเจาะแบบสด ลึก จริงด้วย”

สำหรับปัจจุบันไทยนิวส์ ได้นำเสนอเนื้อหาที่หลากหลายบนแพลตฟอร์มที่ง่ายต่อการเข้าถึง ปัจจุบันได้ก้าวสู่เว็บไซต์ข่าวสารอันดับที่ 22 ของไทยในทรูฮิต กับ www.thainewsonline.co และอันดับที่ 7 กับ www.tnews.co.th ซึ่งมีจำนวนผู้เข้าชมรวมกันกว่า 7 แสนคนต่อวัน สร้างเพจวิวเฉลี่ย 40 ล้านเพจวิวต่อเดือน 

 

นอกจากนี้ยังมีการรับชมผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียอื่น ๆ อีกกว่า 150 ล้านเพจวิวต่อเดือน ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปี มีการรับชมทุกช่องทาง 190 ล้านเพจวิวต่อเดือน ส่วนจำนวนผู้ติดตามบนเฟซบุ๊กแฟนเพจ ปัจจุบันมีทั้งหมด 13.4 ล้านคน โดยไทยนิวส์ เป็นเพจข่าวในอันดับที่ 12 ของไทยในหมวดข่าวและสื่อที่มีค่า Interaction เฉลี่ย 8 ล้านครั้งต่อเดือน

อีกทั้งยังมียอดติดตามบน Youtube 9.4 แสนคน มีผู้ติดตามทาง Line Today และ Line OA 8.30 แสนคน Izooto 2.7 ล้านคน และช่องทางมีเดียใหม่อย่าง TikTok 7.7 แสนคน โดยรวมทุกช่องทางกว่า 18.7 ล้านผู้ติดตาม

 

พร้อมกันนี้ยังมีรายการข่าวใหม่ของทีมข่าวมืออาชีพ คือไทยนิวส์ Exclusive Keep Talking รวมทั้งเนื้อหารายการอื่นที่จอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เช่น เด่วรู้กันบันเทิง, Car Freedom, Pet พาเพลิน, สวนกระแส และโหราปาฏิหาริย์

 

“ไทยนิวส์ขอก้าวต่อไปอย่างมั่นคง และไม่ได้หยุดแค่ออนไลน์เท่านั้น เพราะคอมมูนิตี้หลากหลายที่มีอยู่ทุกวันนี้ จะเปลี่ยนจากออนไลน์สู่ออนกราวด์ต่อไป”