โควิดวันนี้รวมatk ยอดติดเชื้อพุ่งกว่า 4.2 หมื่นราย ปอดอักเสบเพิ่ม 1.4%

21 เม.ย. 2565 | 01:54 น.

โควิดวันนี้รวมatk ยอดติดเชื้อพุ่งกว่า 4.2 หมื่นราย ปอดอักเสบเพิ่ม 1.4% หมอธีระเผยใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มจาก 846 คน เป็น 885 คน

โควิดวันนี้รวมatk ตัวเลขยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron)ที่ติดต่อได้ง่าย และรวดเร็ว 

 

ร.ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า 

 

  • 21,931

 

  • ATK 20,926

 

  • รวม 42,857

 

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ปอดอักเสบเพิ่มขึ้นจาก 1,993 คน เป็น 2,021 คน เพิ่มขึ้น 1.4%

 

ใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มจาก 846 คน เป็น 885 คน เพิ่มขึ้น 4.6%

 

จำนวนติดเชื้อรวม ATK ของวันนี้ น้อยกว่าสัปดาห์ก่อน 0.76% แต่น้อยกว่าสองสัปดาห์ก่อน 15.65%

บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 310 คน (ชาย 73, หญิง 237) 

 

โดยจังหวัดที่บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อสูงสุด 3 อันดับแรกคือ กรุงเทพฯ 81, ชลบุรี 21, ลพบุรี 20

 

หมอธีระ ยังโพสต์ด้วยว่า 

 

ในช่วงเวลาที่ประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่มีการระบาดลดลง 

 

เป็นช่วงเวลาที่เราเห็นหลายประเทศช่วงชิงจังหวะและโอกาสในการเหยียบคันเร่งทางเศรษฐกิจ 

 

โควิดวันนี้รวมatk ยอดติดเชื้อพุ่งกว่า 4.2 หมื่นราย

 

ผ่านการยกเลิกมาตรการป้องกันตัว เช่น หน้ากาก รวมถึงการเว้นระยะห่าง และอื่นๆ ให้ใช้ชีวิตเสรีดี๊ด๊า

 

แต่อย่าลืมว่า สถานการณ์ของเค้าและเรานั้นต่างกันมาก

 

ระบาดเรายังมากกว่าประเทศอื่นส่วนใหญ่ในโลก ตายแต่ละวันก็เยอะกว่าเค้า ติดระดับท็อปไฟฟ์ของโลก

 

นอกจากนี้ศักยภาพในการตรวจคัดกรองโรคก็ทำได้น้อย แถมคนจำนวนมากก็ต้องซื้อหาชุดตรวจเอาเอง

 

สุดท้ายคือ ระบบการดูแลรักษาก็มีศักยภาพจำกัด เห็นปัญหาคอขวดตลอดมา 

และใช้ยาหลักที่ต่างจากหลายประเทศทั่วโลกคือ Favipiravir และฟ้าทะลายโจร 

 

ในขณะที่ยาอย่าง Paxlovid, Monupiravir และ Remdesivir ก็มีจำกัด 

 

เหล่านี้คือข้อแตกต่างที่ควรพิจารณา เพราะแต่ละประเทศรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน

 

ขืนก้าวตามกันตกเหว คนอื่นที่มีระบบสนับสนุนต่างๆ เพียบพร้อมและสถานะสุขภาพดี เปรียบเหมือนมีชูชีพ อาจไม่เจ็บหนัก

 

แต่ถ้าเราพร้อมน้อยกว่าแถมสถานะสุขภาพก็ย่ำแย่อยู่แล้ว จะสาหัสกว่าเค้า

 

ก้าวย่างช้าๆ แต่รอบคอบ จะปลอดภัยกว่า