เตือนเล่นสงกรานต์ ต้องปฎิบัติตามคำสั่ง ศบค.ฝ่าฝืนอาจมีโทษฯ

13 เม.ย. 2565 | 05:07 น.

"โฆษก ตร." วอน เล่นสงกรานต์ เตือนต้องปฎิบัติตามคำสั่ง ศบค.อย่างเคร่งครัด ผู้ใดฝ่าฝืนอาจมีโทษฯ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558

สงกรานต์ 2565  พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยว่า เทศกาลนับเป็นเทศกาลที่สืบสานวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทย แต่จากสถานการณ์ที่มียอดผู้ติดเชื้อโควิดรายวันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้มีมติอนุญาตให้พื้นที่ที่มีการควบคุมสามารถจัดงานสงกรานต์ได้ แต่เป็นการจัดงานเพื่อวัตถุประสงค์สืบสานวัฒนธรรมและประเพณีไทย โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) ของกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด 

ในหลายจังหวัดได้มีรายละเอียดของ “มาตรการป้องกันโควิด-19” ที่ต่างกับพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการแบ่งกลุ่มจังหวัดตามสถานะพื้นที่ควบคุมโควิด

 

  • ห้ามจัดกิจกรรมที่มีการเล่นประแป้งและกิจกรรมในลักษณะปาร์ตี้โฟม รวมถึงห้ามการจำหน่ายและการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในบริเวณพื้นที่จัดกิจกรรม
  • ให้มีจุดคัดกรองบริเวณทางเข้าออกและให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่หรือพื้นที่จัดกิจกรรม และให้ควบคุมจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัดตามขนาดของสถานที่หรือพื้นที่จัดกิจกรรมเกณฑ์ไม่น้อยกว่า 4 ตารางเมตรต่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม 2 คน
  • ให้เข้าร่วมได้เฉพาะผู้ที่แสดงหลักฐานว่าบุคคลนั้นได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด
  • ห้ามการเล่นน้ำ เล่นประแป้ง ปาร์ตี้โฟม หรือกิจกรรมใด ๆ ที่เป็นความเสี่ยงต่อการระบาดของโรค ในพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมพื้นที่สาธารณะในข้อนี้ ไม่รวมถึงพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมตามประกาศนี้ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะให้จัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ได้ เช่นการจัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่หมู่บ้านหรือชุมชน สามารถดำเนินการได้
  • ผู้ที่ประสงค์จะจัดกิจกรรมต้องขออนุญาตต่อฝ่ายปกครองของแต่ละจังหวัด หรือสำนักงานเขตพื้นที่ และสำนักอนามัยกรุงเทพมหานครแล้วแต่กรณี และดำเนินการตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคที่กำหนดไว้ในประกาศตามที่ทางราชการ กำหนด ยกเว้นการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มในครอบครัวสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
  • แต่ต้องปฏิบัติตาม มาตรการควบคุมและป้องกันโรคที่ ศบค.กำหนด สถานที่หรือการจัดกิจกรรมใด ๆ ที่อาจทำให้เกิดมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคให้ผู้ประกอบการหรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินมาตรการความปลอดภัยตามหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะด้วย 

 

สำหรับผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม อาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ