วัคซีนต้านโควิด19 กันติดหรือว่ากันตายได้ดีกว่ากัน เพราะอะไร อ่านเลยที่นี่

06 เม.ย. 2565 | 20:11 น.

วัคซีนต้านโควิด19 กันติดหรือว่ากันตายได้ดีกว่ากัน เพราะอะไร อ่านเลยที่นี่ หมอเฉลิมชัยชี้วัคซีนโควิดยังมีผลดีในการลดการติดเชื้อ และได้ผลดีมากในการลดการเสียชีวิต

วัคซีนต้านโควิด19 เป็นอาวุธ หรือปัจจัยสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) แม้ว่าจะไม่สามารถช่วยไม่ให้ติดเชื้อได้ 100%

 

แต่ก็ช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ โดยเฉพาะกับสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างมากในปัจจุบัน 

 

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

วัคซีนโควิด “ ทั้งกันติด และกันตาย “ เพียงแต่กันตายได้ดีกว่า

 

วัคซีนโควิดยังมีผลดีในการลดการติดเชื้อ และได้ผลดีมากในการลดการเสียชีวิต
จากการระบาดของโควิดช่วงที่ผ่านมา มักมีคำพูดที่กล่าวว่า “ ฉีดวัคซีนโควิด ไม่กันติด แต่กันตาย “

ทำให้บางคนเข้าใจคลาดเคลื่อนไปว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดไม่มีประโยชน์เลยในการป้องกันการติดเชื้อ ได้แต่ป้องกันการเสียชีวิต

 

เมื่อคิดว่าตนเองเป็นคนวัยหนุ่มสาว โอกาสเสียชีวิตจากโควิดมีน้อย ก็เลยตัดสินใจว่าจะไม่ฉีดวัคซีน เพราะคิดว่าการฉีดวัคซีนไม่มีประโยชน์ จะฉีดหรือไม่ฉีดก็ป้องกันการติดเชื้อไม่ได้

 

ตรงนี้คงต้องทำความเข้าใจกันว่า ประสิทธิผลหรือความสามารถของวัคซีนในการป้องกันโรคโควิด เฉพาะในประเด็นประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อนั้น
ตอนที่เป็นไวรัสสายพันธุ์อู่ฮั่น วัคซีนซึ่งผลิตมาเพื่อรองรับไวรัสสายพันธุ์อู่ฮั่นโดยตรง ได้ผลดีในการป้องกันการติดเชื้อในระดับ 90-95%

 

วัคซีนต้านโควิด19 กันติดหรือว่ากันตายได้ดีกว่ากัน

 

ต่อมาเมื่อมีไวรัสกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์เดลต้า การฉีดวัคซีน 2 เข็มก็ยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อได้ 80%

 

และเมื่อเปลี่ยนเป็นโอมิครอนซึ่งดื้อต่อวัคซีนมากขึ้น พบว่าวัคซีน 2 เข็มป้องกันการติดเชื้อไม่ได้ แต่เมื่อฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 แล้ว สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ดีในระดับ 70%

จึงสามารถสรุปได้ว่าวัคซีนที่ฉีดกันอยู่ในปัจจุบัน ในสถานการณ์ที่มีโอมิครอนระบาด ถ้าฉีดครบ 3 เข็ม จะมีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อได้ดีในระดับ 70% ถือว่าป้องกันการติดเชื้อได้ดี และที่ดีมากคือป้องกันการเสียชีวิตได้สูงมากถึง 98%

 

ทั้งนี้มีข้อมูลในช่วงวันที่ 1 มกราคมถึง 31 มีนาคม 2565 มีผู้เสียชีวิตจากโควิดทั้งสิ้น 3432 ราย

 

ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุ 2701 รายหรือ 78.7%

 

โดยในกลุ่มผู้สูงอายุที่เสียชีวิต ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มเพียง 4.1% และไม่ได้ฉีดหรือฉีดไม่ครบ 95.9%

 

ดังนั้นจึงควรเร่งฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อรับมือกับไวรัสโอมิครอน ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และลดความเสี่ยงในการเสียชีวิต

 

ต้องพูดใหม่ว่า “ วัคซีนโควิดนั้น ทั้งกันติด และกันตาย “ เพียงแต่กันตายได้ดีกว่า