โควิดสายพันธุ์ XE-XJ คืออะไร อาการเป็นอย่างไร รุนแรงหรือไม่ อ่านเลยที่นี่

05 เม.ย. 2565 | 01:47 น.

โควิดสายพันธุ์ XE-XJ คืออะไร อาการเป็นอย่างไร รุนแรงหรือไม่ อ่านเลยที่นี่ ฐานเศรษฐกิจรวบรวมคำตอบ และข้อมูลของโควิดสายพันธุ์ย่อยต่างๆที่เกิดขึ้น

โควิดสายพันธุ์ XE และ โควิดสายพันธุ์ XJ คืออะไร อาการเป็นอย่างไร รุนแรงหรือไม่ กำลังเป็นประเด็นคำถามที่ประชาชนต้องการคำตอบ เพราะในเวลานี้โควิด-19 (Covid-19) สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ได้เกิดสายพันธุ์ออกมามากมาย 

 

ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้ดำเนินการสืบค้นข้อมูลเรื่องดังกล่าว เพื่อไขคำตอบ คลายข้อสงสัย พบว่า


โควิดสายพันธุ์ XE เป็นสายพันธุ์โอมิครอนลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ย่อย BA.1 และ BA.2 โดยพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 มีการถอดรหัสพันุกรรมทั้งจีโนมและอัปโหลดขึ้นไปแชร์ไว้บนฐานข้อมูลโควิด-19 โลกแล้วมากกว่า 600 ตัวอย่าง
 

สำหรับในประเทศไทยนั้น  ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อยืนยันสายพันธุ์ XE รายแรก โดยตรวจพบจากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากตัวอย่างสวอปจากผู้ติดเชื้อชาวไทย 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มสีเขียว โดยมีอาการเพียงเล็กน้อย

ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับโอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม XE ว่า เป็นสายพันธุ์ที่สามารถติดต่อได้ง่าย และรวดเร็วกว่าเชื้อโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ที่เคยพบเจอมา และมีอัตราการแพร่ระบาด (growth advantage) เหนือกว่า BA.2 ถึง 10% แต่ยังต้องรอข้อมูลจากทั่วโลกที่ร่วมด้วยช่วยกันถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมอีกระยะหนึ่งเพื่อการยืนยัน

 

ส่วนโควิดสายพันธุ์ XJ เป็นสายพันธุ์โอมิครอนลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ย่อย BA.1 และ BA.2 เช่นเดียวกับสายพันธุ์ XE โดยพบมากที่สุดในประเทศฟืนแลนด์

 

โควิดสายพันธุ์ XE-XJ คืออะไร อาการเป็นอย่างไร

 

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาตร์การแพทย์ ให้ข้อมูลว่า โควิดสายพันธุ์ XE จะแตกต่างจากโควิดสายพันธุ์ XJ โดยมีรหัสพันธุกรรมที่แตกต่างกัน แม้จะเป็นลูกผสมจากสายพันธุ์ย่อยเดียวกัน จึงทำให้มีชื่อเรียกที่ไม่เหมือนกัน

 

ด้านความรุนแรงของโควิดสายพันธุ์ XJ นั้น ยังไม่มีการรายงานข้อมูลที่ชัดเจนว่า จะสามารถแพร่กระจายเชื้อได้เร็วกว่าหรือเป็นเป็นอันตรายกว่าสายพันธุ์อื่นหรือไม่

สำหรับในประเทศไทยนั้น  กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พบผู้เข้าข่ายใกล้เคียงกับ XJ 1 ราย เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565 โดยเป็นผู้ชายสัญชาติไทย อายุ 34 ปี อาชีพพนักงานขนส่ง

 

ซึ่งคนกลุ่มนี้เจอคนหลากหลายจึงมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายและเสี่ยงกว่าคนทั่วไป จึงเสี่ยงเจอเชื้อไฮบริด โดยตรวจพบเชื้อในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน กทม. ผู้ป่วยรายนี้มีประวัติฉีดวัคซีนชิโนฟาร์มไปแล้ว 2 เข็ม


อย่างไรก็ดี จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าว มีลักษณะการติดเชื้อจากไวรัสอย่างน้อยสองตัวและผสมกันเป็นตัวใหม่ โดยตำแหน่งการถอดรหัส อยู่ใกล้เคียงกับ XJ มากกว่าสายพันธุ์ XE ของอังกฤษ ทำให้คิดว่าน่าจะเป็นสายพันธุ์ XJ มากกว่า

 

การกำหนดสายพันธุ์โควิด-19 นั้น ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า จะอาศัยข้อมูลรหัสพันธุ์ของโควิด-19 ทั้งจีโนมซับมิทเข้าไปในโปรแกรมออนไลน์ PANGOLIN แบ่งสายพันธุ์ลูกผสมเป็น 2 หมวด 8 สายพันธุ์

 

หมวด 1 : สายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง เดลตา x BA.1 ประกอบด้วยสมาชิก 2 สายพันธุ์ ได้แก่ 

 

  • XD เป็นสายพันธุ์ลูกผสม ระหว่าง เดลตา x BA.1 lineage พบในฝรั่งเศส ประกอบด้วยยีน S ที่สร้างหนามแหลม ส่วนอื่นเป็นจีโนมจากเดลตา
  • XF จีโนมมีส่วนผสมระหว่าง ยีน S และยีนที่สร้างโปรตีนสำคัญของอนุภาคไวรัส มาจาก BA.1 กับส่วน 5 จากจีโนมของเดลตา


หมวด 2 : สายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง BA.1 x BA.2 ประกอบด้วยสมาชิก 6 สายพันธุ์ ได้แก่ 

 

  • XE พบในอังกฤษ จีโนมมีส่วนผสมระหว่าง ยีน S และยีนที่สร้างโปรตีนสำคัญของอนุภาคไวรัส มาจาก BA.2 กับส่วน 5’ จากจีโนมของ BA.1 แสดงอัตราการแพร่ระบาด (growth advantage) เหนือ BA.2
  • XG พบในเดนมาร์ก
  • XH พบในเดนมาร์ก
  • XJ พบในฟินแลนด์
  • XK พบในเบลเยียม
  • XL พบในอังกฤษ

 

จากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญหฃายท่านเกี่ยวกับการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน ความสามารถในการแพร่ระบาด และอาการความรุนแรงของโรคนั้น  โควิดสายพันธุ์ XF ,XE ,XG ,XH ,XJ ,XK และ XL ไม่น่าจะแตกต่างไปจากโอมิครอนสายพันธุ์ BA.1 และ BA.2