มข.มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ “แม่ชีศันสนีย์” ทำประโยชน์ให้สังคม

คณะผู้บริหาร มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เดินทางมามอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประจำปี 2564 แด่ “แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต” พร้อมทั้งเคารพกายสังขารท่าน ณ เสถียรธรรมสถาน กรุงเทพมหานคร

รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น  เปิดเผยว่า  การมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่ “แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต” สืบเนื่องจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้มีการมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ให้แก่ผู้ที่สร้างคุณประโยชน์ ให้แก่สังคม  

ซึ่งแต่ละปี จะมีผู้ที่ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการแพทย์ การเกษตร การเมือง การปกครอง ด้านศิลปวัฒนธรรมและด้านศาสนา  

โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้มอบประกาศเกียรติคุณ ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์  ให้แด่ท่าน

ทั้งนี้ สภามหาวิทยาลัยมีมติมอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ให้แด่ แม่ชีศันสนีย์ โดยได้เรียนให้ท่านทราบ พร้อมทั้งได้นำหนังสือให้แก่ท่าน

ซึ่งท่านได้ตอบกลับ โดยขอบคุณที่มหาวิทยาลัยให้ปริญญาดังกล่าว แต่ท่านไม่สะดวกมารับด้วยตนเอง และหากสะดวกเมื่อใดจะให้มข.มอบปริญญาดังกล่าวให้

ทว่าต่อมาท่านก็ได้จากไปเสียก่อนจึงไม่ได้มีการรับมอบปริญญาดังกล่าว และในวันที่ 30 มี.ค.2565 ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้มามอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ และเคารพกายสังขารของท่าน

“การมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์นี้ เป็นส่วนหนึ่งเพื่อการยกย่องผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคม แก่ประเทศ และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่น ได้เป็นแบบอย่าง นำหลักคิด หลักคำสอน หลักการใช้ชีวิตไปปรับใช้กับชีวิตของตน ซึ่งหากทุกคนได้ศึกษาวิธีคิด หลักคำสอนของแม่ชีศันสนีย์  จะเห็นได้ว่าท่านต้องการให้ผู้หญิงเห็นถึงพลังของตนเอง ซึ่งผู้หญิงมีพลัง สามารถบรรลุธรรม พัฒนาจิตวิญญาณได้ไม่แพ้ผู้ชาย 

นอกจากนี้ แม่ชีศันสนีย์ได้นำพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ที่เป็นผู้หญิง เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงรู้สึกถึงพลังของตนเอง และรู้ว่าสามารถพัฒนาตนเองได้ในทุกท่าน ซึ่งหลักปฏิบัติของท่าน

สอดคล้องกับบทบาทของมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมความเสมอภาค ความเท่าเทียมระหว่างหญิงชาย ทุกคนได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียมกัน อีกทั้ง มข.ได้มีแนวทางในการส่งเสริมกิจกรรมทางศาสนา มีหอศิลปวัฒนธรรม มีการสร้างพระในมหาวิทยาลัย มีการทำบุญตักบาตร  

รวมถึงมีการตั้ง สถาบันพลังจิตตานุภาพ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีการจัด โครงการสมาธิพัฒนาปัญญาเด็กไทย   โดยหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร”

อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น  กล่าวต่อไปว่า “ตอนนี้ในสังคมมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งการพัฒนาจิตใจจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะต่อให้การพัฒนาความก้าวหน้าด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีมีความจำเป็น แต่ไม่สามารถสร้างความสุขให้แก่ทุกคนได้เสมอไป การที่ทุกคนจะมีความสุขได้ต้องได้รับการพัฒนาจิตใจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ดังนั้น การเรียนรู้  การผลิตบัณฑิตของมข. จึงไม่ได้มุ่งเน้นเพียงเรื่องการพัฒนาด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี วิจัยเท่านั้น แต่ยังมุ่งพัฒนาจิตใจให้แก่คนรุ่นใหม่ร่วมด้วย”