อบต.เกาะกูด สรุป "โซเนวา คีรี" มีระบบเตือนไฟไหม้ แต่เครื่องขัดข้องไม่ทำงาน

09 มี.ค. 2565 | 13:25 น.

อบต.เกาะกูด เผย ไฟไหม้วิลล่าหรู"โซเนวา คีรี" พบสัญญาณเตือนภัย-เครื่องจับควัน แต่เครื่องขัดข้อง ไม่ทำงาน ยันที่ดินมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง

จากกรณีโรงแรมหรู "โซเนวา คีรี" ไฟไหม้ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2565 ซึ่งเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นในวิลล่า 63  จนถูกเผามอดทั้งหลัง และสามารถควบคุมเพลิงได้ ทำให้ไม่ลามไปยังวิลล่า และส่วนอื่นๆ ของเกาะ หรือของรีสอร์ทที่ยังเหลืออีก33หลัง

 

โซเนวา คีรี ไฟไหม้

 

ทั้งผู้ประสบเหตุไฟไหม้ในห้องวิลล่าดังกล่าวยังระบุว่าโรงแรมคืนละ 5 แสนบาท แต่ไม่มีสัญญาณเตือนภัย-สปริงเกอร์พ่นน้ำ ตรงข้ามกับแถลงการณ์ของโรงแรมโซเนวา คีรี ที่ชี้แจงว่าวิลล่าทุกหลังของโรงแรมติดตั้งเครื่องตรวจจับควันไฟในห้องนอนทุกห้อง และมีระเบียบการจัดการด้านอัคคีภัยอย่างดี

ล่าสุดเรื่องนี้ได้ข้อสรุปแล้ว โดย นายเดชาธร จันทร์อบ นายก อบต.เกาะกูด เปิดเผยถึงกรณีไฟไหม้โรงแรมโซเนวาคีรี ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด เมื่อเช้าวันที่ 6 มีค. ที่ผ่านมาว่า หลังรับแจ้งจากทางโรงแรมเวลาประมาณ 05.45 น. ได้นำทีมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยสกัดดับไฟ พร้อมพนักงานโรงแรม จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ไม่ให้ลุกลามไปไหม้อาคารใกล้เคียงและลุกลามเข้าป่าใกล้โรงแรม 

 

ทั้งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า โรงแรมมีการติดตั้งสัญญาณเตือนภัย เครื่องจับควัน  ทางโรงแรมมีครบ แต่เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ เครื่องเตือนภัย และจับควัน กลับขัดข้อง ไม่ทำงาน ทำให้ผู้พักในอาคารไม่ทราบ มารู้ตัวจนเมื่อไฟไหม้ลุกลามไปเกือบทั่วอาคารแล้ว ทำให้เกิดเหตุสูญเสียทรัพย์สิน และได้รับบาดเจ็บกันดังกล่าว

ส่วนเรื่องเอกสารสิทธิ์ที่ดินของโรงแรมโซเนวา คีรี  ยืนยันว่ามีเอกสารสิทธิ์เป็น นส.3 ก.ถูกต้อง และเป็นพื้นที่นอกเขตอุทยาน นอกเขตป่า พรบ.2484

 

โซเนวา คีรี เกาะกูด

 

โรงแรมนี้เป็นโรงแรมที่อนุรักษ์ป่าไม้ และสิ่งแวดล้อม มีการปลูกไม้ต่างๆเพิ่มเติมเพื่อความร่มรื่น สวยงาม ที่ผ่านมาทางอบต.เกาะกูด ได้ทำการตรวจสอบ และบังคับใช้ พรบ.ควบคุมอาคาร และพรบ.โรงแรม อย่างเข้มงวด จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นเหตุสุดวิสัย

 

ส่วนเรื่องสาเหตุไฟไหม้ จะต้องรอพิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจสอบต่อไป

 

อีกทั้งต่อจากนี้จะติดตาม ตรวจสอบ บังคับใช้ พรบ.ควบคุมอาคาร และพรบ.โรงแรม ตรวจสอบโรงแรมที่พักบนเกาะกูด ทุกระดับอีกครั้ง ให้ปฎิบัตตามอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันเหตุดังกล่าว ซึ่งโรงแรมที่พักบนเกาะกูดทั้งหมด ทั้งระดับ 2-3 ดาว 4-5 ดาว ทุกแห่งจะต้องได้รับการอนุญาตเปิดดำเนินการ และต้องมีการต่อใบอนุญาตทุกปี 

 

นอกจากนี้ยังมีประเภทโฮมสเตย์ที่พักแบบชาวบ้าน ชุมชนอีกยังไม่ทราบจำนวน 86 แห่งด้วยกัน แต่ตอนนี้หลังภาวะวิกฤตโควิด 19 ที่พักต่างๆได้ปิดตัวลงไปเป็นจำนวนมากเช่นกัน