โควิดวันนี้รวมatk ติดเชื้อสูงทะลุ 4.5 หมื่นราย ปอดอักเสบเพิ่ม 17.14%

07 มี.ค. 2565 | 02:46 น.

โควิดวันนี้รวมatk ติดเชื้อสูงทะลุ 4.5 หมื่นราย ปอดอักเสบเพิ่ม 17.14% หมอธีระชี้หนึ่งสัปดาห์ใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่ม 33.92%

โควิดวันนี้รวมatk ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) จะดูลดลงจากเมื่อวันก่อน

 

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า 

 

  • 21,162

 

  • ATK 24,236

 

  • รวม 45,398

 

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ปอดอักเสบเพิ่มขึ้นจาก 980 คน เป็น 1,148 คน เพิ่มขึ้น 
17.14%

 

ใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มจาก 280 คน เป็น 375 คน เพิ่มขึ้น 33.92%

 

จังหวัดที่มีผู้ป่วยปอดอักเสบเข้ารับการรักษา โดยมีอัตราครองเตียงระดับ 2 และระดับ 3 เกิน 50% ไปแล้วได้แก่ ตรัง นครนายก ร้อยเอ็ด เลย และระนอง

 

วันนี้เสียชีวิตสูงถึง 65 คน อายุตั้งแต่ 13-96 ปี

ราวครึ่งหนึ่งของจำนวนเสียชีวิตทั้งหมด ใช้เวลาจากการตรวจพบว่าติดเชื้อจนถึงเสียชีวิต เพียง 5 วัน 

 

ทั้งนี้มีถึง 6 ราย ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อในวันที่เสียชีวิต

 

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ หมอธีระ ได้โพสต์ด้วยว่า

 

Q: รู้ไหมว่าจำนวนคนที่ตรวจ ATK เป็นผลบวกตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้มีเท่าไหร่?

 

โควิดวันนี้รวมatk ติดเชื้อสูงทะลุ 4.5 หมื่นราย

 

A: จากข้อมูลที่ทางกรมควบคุมโรครายงาน ATK ในเว็บ เริ่มตั้งแต่ 31 กรกฎาคม 2564 จนถึงวันนี้ 6 มีนาคม 2565 

 

มีจำนวนคนที่ตรวจพบว่าเป็นผลบวกจาก ATK ไปแล้วทั้งสิ้น 910,899 คน

 

ทั้งนี้ตัวเลขจาก ATK ไม่ได้รับการนำมารวมกับจำนวนที่ตรวจด้วย RT-PCR

 

แม้มีคนที่ตรวจ ATK เป็นบวกแล้วไปตรวจ RT-PCR แต่เป็นสัดส่วนที่น้อย

 

เพราะข้อจำกัดเชิงศักยภาพของระบบตรวจ RT-PCR และปัญหาค่าใช้จ่ายในการตรวจ

ดังนั้นหากลองเอาตัวเลข 910,899 คนมารวมกับยอดติดเชื้อสะสมที่ทางการ

 

รายงานสู่สาธารณะ 3,026,695 คน โดยประเมินว่าสัดส่วนคนที่ตรวจ ATK ไปตรวจ RT-PCR ได้ไม่เกิน 25%

 

จะทำให้ยอดสะสมเป็น 3,709,870 คน

 

เขยิบจากอันดับ 33 เป็นอันดับ 22 ของโลก

 

อย่างไรก็ตาม ต่อให้จำนวนติดเชื้อจริงจะเป็นเช่นไร หลักสำคัญในการเอาตัวรอดในสถานการณ์ระบาดคือ การตระหนักรู้ว่าไม่ติดเชื้อนั้นย่อมดีที่สุด

 

และวิธีป้องกันที่ดีที่สุดที่ทำได้ด้วยตนเองคือ ใส่หน้ากาก เจอคนต้องเว้นระยะห่างและใช้เวลาสั้นๆ และไม่แชร์ของกินของใช่ร่วมกับคนอื่น