สปสช.แจก ATK เฟส 2 กลุ่มเสี่ยงที่ไม่มีโทรศัพท์"สมาร์ทโฟน" เช็ควิธีรับที่นี่

28 ก.พ. 2565 | 20:00 น.

สปสช.แจกชุดตรวจ ATK เฟส 2 ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตรวจโควิด-19 ด้วยตนเอง เริ่มตั้งแต่ 1 มี.ค.65 ผ่านแอปฯเป๋าตัง สำหรับคนที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ"สมาร์ทโฟน" เช็ควิธีรับที่นี่

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสปสช. เตรียมแจกชุดตรวจ ATK เฟส 2 ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตรวจโควิด-19 ด้วยตนเอง เริ่มตั้งแต่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป

 

สำหรับแนวทางในการรับชุดตรวจ ATK เฟส 2 สำหรับประชาชนคนไทยทุกสิทธิ ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 สามารถทำตามขั้นตอน ดังนี้ 

 

กรณีไม่มีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน

 

  • โทร 1330 กด 17 หรือผ่านเว็บไซต์ สปสช. www.nhso.go.th เพื่อตรวจสอบข้อมูลหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ
  • เดินทางไปที่หน่วยบริการ พร้อมบัตรประชาชน/สูติบัตร เพื่อให้ ตัวแทนหน่วยบริการ ทำประเมินความเสี่ยงให้
  • หากมีความเสี่ยงจะได้รับชุดตรวจ 2 ชุด และนำกลับมาตรวจและกลับมาแจ้ง ตัวแทนหน่วยบริการที่ให้บันทึกผลตรวจให้ ทั้งนี้ หลังจากได้รับแจกไปแล้ว อีก 14 วัน หรือวันที่ 15 สามารถมาขอรับได้อีก (เปลี่ยนจำนวนวันจาก 2 ชุดต่อ 10 วัน เป็น 2 ชุดต่อ 14 วัน ตามหลักเกณฑ์ใหม่ของกระทรวงสาธารณสุข)

กรณีรับบริการผ่านโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน

 

  • เข้าแอปฯ เป๋าตัง/กระเป๋าสุขภาพ เลือก “ฟรี ชุดตรวจโควิด”
  • ทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อนรับชุดตรวจโควิด-19
  • หากมีความเสี่ยง ระบบจะให้ค้นหาหน่วยบริการใกล้ฉันและโทรติดต่อสอบถาม
  • เดินทางไปรับพร้อมมือถือที่มีแอปเป๋าตัง เพื่อใช้สแกน QR Code แอปถุงเงินของหน่วยบริการ
  • ได้รับชุดตรวจ 2 ชุด นำกลับมาตรวจและบันทึกผลผ่านแอปเป๋าตัง/กระเป๋าสุขภาพ อีก 14 วัน หรือวันที่ 15 สามารถไปรับใหม่ได้อีกครั้ง หากมีความเสี่ยง (เปลี่ยนจำนวนวันจาก 2 ชุดต่อ 10 วัน เป็น 2 ชุดต่อ 14 วัน ตามหลักเกณฑ์ใหม่ของกระทรวงสาธารณสุข)

 

ทั้งนี้ชุดตรวจ ATK ที่กระจายในครั้งนี้ สปสช. เน้นเป็นชุดตรวจที่อยู่ในรายการสินค้าบัญชีนวัตกรรม เพื่อเป็นการร่วมสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยตามนโยบายของรัฐบาล โดย สปสช.จะทำหน้าที่เป็นกลไกกลางในการประสานกับผู้จำหน่าย ATK ในบัญชีนวัตกรรม องค์การเภสัชกรรม เพื่อให้ได้ในราคาที่เหมาะสมและจำนวนตามความต้องการของหน่วยบริการ

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 กด 17 ตลอด 24 ชม. หรือเพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso

 

ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ