"โอมิครอน"ในไทยจะหนักหนาสาหัสหรือไม่ หมอธีระชี้ขึ้นกับนโยบาย-มาตรการ

29 ธ.ค. 2564 | 12:36 น.

โอมิครอนในไทยจะหนักหนาสาหัสหรือหม่ หมอธีระชี้ขึ้นกับนโยบายและมาตรการว่าจะนำไปสู่กระบวนการที่ทำให้ประชาชนในสังคมรับรู้ ตระหนัก และปฏิบัติตัวป้องกันตนเองและครอบครัวได้เข้มข้นเข้มแข็งและทันเวลาหรือไม่

รายงานข่าวระบุว่า  รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า 
ลองวิเคราะห์การระบาดที่เกิดขึ้นในแต่ละระลอก ไม่ว่าจะที่ใดในโลก ไม่ได้มีสาเหตุหลักมาจากการปฏิบัติตัวประชาชนเป็นเหตุรากเหง้า
แต่รากเหง้ามาจากเรื่องนโยบายและมาตรการระดับประเทศ ทั้งเรื่องสุขภาพท่องเที่ยวเดินทาง 
ตัวนโยบายและมาตรการต่างๆ นั้นจะส่งผลต่อการรับรู้ ความตระหนัก และการปฏิบัติตัวของประชาชน
เฉกเช่นเดียวกับระลอก Omicron (โอมิครอน)

การจะหนักหนาสาหัสหรือไม่ ไม่ใช่ขึ้นกับประชาชน แต่ขึ้นกับนโยบายและมาตรการครับว่าจะนำไปสู่กระบวนการต่างๆ ที่ทำให้ประชาชนในสังคมรับรู้ ตระหนัก และปฏิบัติตัวป้องกันตนเองและครอบครัวได้เข้มข้นเข้มแข็งและทันเวลาหรือไม่
ดังนั้นหากทราบรากเหง้าสาเหตุ กระบวนการที่เกิดขึ้นตามมาดังที่อธิบายแล้วข้างต้น หากเกิดผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบใดๆ ต่อมา

โอมิครอนจะหนักหนาสาหัสหรือไม่ขึ้นกับนโยบาย
ต้องไม่โทษการกระทำเชิงพฤติกรรมของประชาชน ซึ่งถือเป็นผลผลิตที่เกิดขึ้นจากนโยบาย มาตรการ และการดำเนินการจากนโยบายและมาตรการ
ต้องวิเคราะห์ผลลัพธ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นว่าจะดีแย่เพียงใด หากออกมาไม่ดี ก็ต้องไปปรับที่รากเหง้าสาเหตุ ไม่ใช่โยนให้ผลผลิตรับผิดชอบการเกิดขึ้นของผลลัพธ์และผลกระทบ
 

ระลอกต่างๆ ที่ผ่านมา รอดมาได้เพราะประชาชนทุกภาคส่วนร่วมด้วยช่วยกันประคับประคอง ใช่หรือไม่ ลองตรองดู
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทย วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2564 นั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. พบว่า มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น  2,575 ราย  
ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 2,188,424 ราย  เสียชีวิตเพิ่ม 17 ราย หายป่วยเพิ่ม 2,695 ราย กำลังรักษา 33,502 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 2,134,712 ราย