อัพเดท "โอมิครอน" ไทยเสี่ยงสูง-เดนมาร์กติดเชื้อสูงสุดเป็นประวัติการณ์

22 ธ.ค. 2564 | 08:30 น.

อัพเดท โอมิครอน ไทยเสี่ยงสูง ด้านเดนมาร์กติดเชื้อสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หมอธีระฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วยไฟเซอร์หรือโมเดิร์นนา

รายงานข่าวระบุว่า  รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า 
22 ธันวาคม 2564 ทะลุ 276 ล้านไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 707,648 คน ตายเพิ่ม 6,686 คน รวมแล้วติดไปรวม 276,518,951 คน เสียชีวิตรวม 5,384,060 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ อเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สเปน และเยอรมัน
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็น 92.33% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 95.93%
ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็น 58.13% ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็น 57.73% 
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 13 ใน 20 อันดับแรกของโลก

สำหรับสถานการณ์ไทยเรา
เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 2,476 คน สูงเป็นอันดับ 34 ของโลก
หากรวม ATK อีก 264 คน ก็ขยับเป็นอันดับ 33 ของโลก
ยอดรวม ATK จะเป็นอันดับ 8 ของเอเชีย
อัพเดต Omicron (โอมิครอน)
เมื่อวานนี้เดนมาร์กมีจำนวนติดเชื้อสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ สูงถึง 13,057 คน สูงกว่าปลายปีก่อนถึง 3 เท่า

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์
ส่วนในบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา มีการรายงานจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อ อาการหนัก และต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล พบว่ามีทั้งคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน และที่ฉีดวัคซีน โดยกลุ่มคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนมีสัดส่วนถึง 70% เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีนสำหรับประชาชน
หากฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไป ต้องใช้เวลาอีกนานไหม กว่าจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อลง?
นี่เป็นคำถามที่น่าสนใจ และมีบางคนเคยถาม 

ล่าสุดมีการศึกษาที่รายงานจาก UK Health Security Agency (UK HSA) ทำการเปรียบเทียบให้เห็นระหว่างกลุ่มคนที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มแรกเป็นแอสตร้าเซนเนก้า กับกลุ่มที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มแรกเป็นไฟเซอร์ แล้วทำการฉีดเข็มกระตุ้นทั้งสองกลุ่มด้วยวัคซีนไฟเซอร์ (mRNA vaccine)
พบว่า เริ่มสังเกตเห็นผลในการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาหลังฉีดเข็มกระตุ้นไปได้ตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์ โดยกลุ่มที่เคยได้วัคซีนไฟเซอร์มาก่อนในสองเข็มแรกนั้น จะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อน้อยกว่ากลุ่มที่ได้แอสตร้าเซนเนก้า
นอกจากนี้ยังมีการศึกษารายละเอียดพบว่า ภูมิคุ้มกันในน้ำเลือดอย่างแอนติบอดี้นั้นจะเริ่มเพิ่มตั้งแต่สัปดาห์แรก ส่วนภูมิคุ้มกันระดับเซลล์คือ T-cells นั้นจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่สองเป็นต้นไป
แม้การศึกษานี้จะสังเกตการติดเชื้อในช่วงที่เดลตาระบาด ไม่ได้อยู่ในช่วง Omicron แต่ก็ช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับระยะเวลาที่เข็มกระตุ้นเริ่มออกฤทธิ์ช่วยในการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ 
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีคำถามค้างคาว่า เข็มกระตุ้นที่ฉีดไปนั้นจะมีประสิทธิภาพคงอยู่ได้ยาวนานเพียงใด เรื่องนี้ยังไม่มีคำตอบ

อัพเดท โอมิครอน ไทยเสี่ยงสูง
สำหรับไทยเรา
จำเป็นต้องเตรียมรับมือ Omicron ให้ดี
เพราะหลักฐานวิชาการจากทั่วโลกที่กำลังเผชิญการระบาดอยู่นั้น ชี้ให้เห็นว่า หากเกิดการระบาดขึ้นมาในประเทศแล้ว เอาอยู่...ยาก และจะไล่ตามไม่ทัน
ระบบการคัดกรองโรคจำเป็นต้องมีศักยภาพที่ทำได้ปริมาณมากและต่อเนื่อง เพื่อให้ทันต่อความต้องการยามที่ระบาดปะทุขึ้น 
ความเสี่ยงตอนนี้สูงมาก และเราเห็นรายงาน Omicron ของไทยมากขึ้นเรื่อยๆ
การที่เราเตรียมตัว เตรียมงาน เตรียมสถานที่ เตรียมอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ ไว้ล่วงหน้า และหมั่นติดตามข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้ ก็จะทำให้สามารถรับมือสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หาหมอ ทำฟัน ตัดผม ซื้อ ATK ติดบ้านไว้บ้าง ก็จะเป็นการดี
ที่สำคัญมากคือ ไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย mRNA vaccines จะไฟเซอร์หรือโมเดอร์น่าก็ได้ 
ใส่หน้ากากเสมอ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า เว้นระยะห่างจากคนอื่นเกินหนึ่งเมตร เลี่ยงการตะลอนท่องเที่ยว  และเลี่ยงการปาร์ตี้สังสรรค์คริสตมาสและปีใหม่ ฉลองกับคนในครอบครัวที่บ้านจะปลอดภัยกว่า