ภูเก็ตแซนด์บล็อกเหลว เต้ อัดรายได้ยังไม่ลงไปถึงคนพื้นที่อย่างแท้จริง

29 ต.ค. 2564 | 11:08 น.

เต้ มงคลกิตติ์ ชี้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ยังไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจภูเก็ตพลิกฟื้น ระบุรายได้ยังไม่ลงไปถึงคนพื้นที่อย่างแท้จริง แนะรัฐบาลต้องช่วยเหลือผู้ประกอบการให้ฟื้นตัวรับนักท่องเที่ยว

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยว่า โครงการภูเก็ตแซนด์บล็อกตั้งแต่เริ่มต้นเปิดโครงการเมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม จนถึงปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาภูเก็ตประมาณ 40,000 กว่าคนเท่านั้น 

ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับทางนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในภูเก็ตแต่ละคนจะใช้เงินอยู่ที่ 100,000 บาท   โดยมีค่าใช้จ่ายเช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน  ค่าการตรวจ RT-PCR (Polymerase chain reaction) ซึ่งเป็นการ Swab เก็บตัวอย่างเชื้อบริเวณลำคอ และหลังโพรงจมูก ค่าที่พัก-ค่ากินดื่ม เป็นต้น  มีรายได้รวมไม่เกิน  3-4 พันล้านบาท จากเดิมที่จังหวัดภูเก็ตจะมีรายได้ก่อนโควิด-19 (covid-19) ในปี 2562 ถึงปีละ 470,000 ล้านบาท 

ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์รายได้ไม่ลงถึงคนพื้นที่

นอกจากนี้ รายได้จากนักท่องเที่ยวตามโครงการภูเก็ตแซนด์บล็อก ยังไม่กระจายไปไม่ถึงผู้ประกอบรายใหญ่รายเล็กรายย่อย และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังตั้งหลักไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่หรือรายย่อย โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก หรือโฮลเทลต่างๆ ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีห้องพักไม่กี่ห้อง ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ไม่สามารถที่จะเปิดให้บริการได้ในขณะนี้ เนื่องจากยังติดเงื่อนไขตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 และกฎหมายอื่นทีเกี่ยวข้องด้วย
“เท่าที่ดูในภาพรวมของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ นั้น รายได้ส่วนใหญ่ ยังไม่ขยับลงไปสู่ชาวภูเก็ตอย่างแท้จริง  โดยจากการที่พูดคุยกับผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก รายใหญ่ยังมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก  และสถาบันทางการเงินไม่ได้มีการช่วยเหลือเท่าที่ควรจะเป็น อย่างการปล่อยเงินกู้ และซอฟต์โลน ช่วยเหลือผู้ประกอบการจะติดเรื่องใบอนุญาต ติดเรื่องสเตทเมนต์ เรื่องเครดิตบูโร แม้กฎหมายจะผ่านสภาไปแล้ว แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ได้อนุโลมไม่ได้ผ่อนปรน"
อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริงสถานการณ์แบบนี้รัฐบาลเองเมื่อคิดที่จะเปิดประเทศแล้วจำเป็นที่จะต้องให้เงินทุนผู้ประกอบการในการที่จะมารื้อฟื้นเศรษฐกิจ เพื่อจะรองรับนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเข้ามายังประเทศ และต้องให้มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ยืดระยะเวลาให้ผู้ประกอบการสามารถยืนได้ ซึ่งถ้าเป็นต่างประเทศจะมีเงินอุดหนุนให้ฟรีจากทางรัฐบาลในการเยียวยาเหมือนประกอบการปกติ ยังสามารถจ่ายลูกน้อง ภาษีได้ รวมในเงินกู้การลงทุนเพิ่มใหม่ 
ขณะที่ในประเทศไทยผู้ประกอบการต้องดิ้นรนเอง เช่น การปฏิบัติตามโครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety and Health Administration หรือ SHA) เพื่อให้ได้ประกาศนียบัตรรับรองนั้น  ต้องมีค่าใช้จ่ายสูง สุดท้ายผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้