ศบค.เผยพบคลัสเตอร์ใหม่ในโรงงาน ส่วนกทม.พบติดเชื้อในแคมป์คนงาน

04 ต.ค. 2564 | 07:14 น.

ศบค.เผยพบคลัสเตอร์ใหม่ในโรงงานที่ชลบุรี สงขลา สมุทรปราการ ส่วนกทม.พบติดเชื้อในแคมป์คนงาน ชี้ทิศทางผู้ติดเชื้อ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ที่ 21% ใกล้เคียงกับกทม.และปริมณฑล

วันที่ 4 ต.ค.64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม 2564 ช่วงหนึ่งว่า ทิศทางผู้ติดเชื้อ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ที่ 21% ใกล้เคียงกับกทม.และปริมณฑล และในวันนี้มียอดผู้เสียใน 11 จังหวัดภาคใต้รวมแล้ว 27 คน

ศบค.เผยพบคลัสเตอร์ใหม่ในโรงงาน ส่วนกทม.พบติดเชื้อในแคมป์คนงาน

กระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงว่า มีรายงานผู้ติดเชื้อในภาคใต้เกิดจากการสัมผัสใกล้ชิดคนในครอบครัว และมีรายงานที่อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ยังมีรายงานร้านอาหารเปิดเกินเวลา มีการลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปกำชับการปฏิบัติตตามมาตรการด้วย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในวันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์ใหม่ที่โรงงาน ที่ชลบุรี สงขลา สมุทรปราการ มีรายงานผู้ติดเชื้อสูงขึ้นในเรือนจำที่จังหวัดพัทลุง ส่วนกทม. พบผู้ติดเชื้อที่แคมป์คนงาน กรุงเทพเหนือ กรุงเทพตะวันออก ซึ่งสำนักเขตและสำนักงานโยธาได้เข้าไปดูแลคนงานแล้ว มีการสุ่มตรวจเป็นระยะ รวมถึงมีการสุ่มตรวจ 5 ตลาดในกทม. พบผู้ติดเชื้อ 75 ราย คิดเป็น 5%

ทั้งนี้รองปลัดสาธารณสุข มีความเป็นห่วงแรงงานต่างด้าวที่ไม่สิทธิ์การรักษาพยาบาลใดๆ แต่ในหลักการเมื่อมีอาการเจ็บป่วยต้องมีการช่วยเหลือดูแลโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้มีการของบกลางมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา และมีการหารือโรงพยาบาลในสังกัดกทม.และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เพื่อให้แรงงานต่างด้าวที่ไร้สิทธิ์ได้เข้าถึงกระบวนการรักษาที่มีมาตรฐาน และต้องได้รับการฉีดวัคซีนโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติด้วย

พญ.อภิสมัย กล่าวต่อไปว่า พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศปก.ศบค.) ได้ฝากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบนำเสนอข้อมูลและมาตรการต่างๆของกระทรวงสาธารณให้สั้น กระชับ ชัดเจนและปฏิบัติได้ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจและหน่วยงานต่างๆนำไปปฏิบัติได้

และในวันพุธนี้ ผอ.ศปก.ศบค. จะประชุมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องยุทธศาสตร์การดำเนินการ และให้ทุกคนสามารถเข้าสู่วิถีใหม่ เพื่อให้สามารถเปิดกิจการ กิจกรรมและเปิดประเทศได้