พริ้นซิเพิล แคปิตอล ชี้วิกฤติโควิด ดันคนวิ่งเข้าสู่ดิจิทัล

19 ส.ค. 2564 | 10:24 น.

พริ้นซิเพิล แคปิตอล ชี้วิกฤติโควิด ดันคนไทยทุกกลุ่ม วิ่งเข้าสู่ดิจิทัล Home Isolation ดิสรัปท์ เฮลท์แคร์เมืองไทย เดินหน้าทรานฟอร์เมชั่นสู่ 4.0 เปิดทางคนรุ่นใหม่ร่วมพัฒนา

ดร.สาธิต วิทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) กล่าวในเวทีสัมมนาออนไลน์ Thailand Next  episode 1 : Innovation Beyond Business โอกาสนวัตกรรมเศรษฐกิจ จัดโดยเครือเนชั่น ว่า การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจ

 

เห็นได้จากตัวเลขของผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่มีมากกว่า 200 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 4 ล้านคน เทียบเท่ากับการเกิดสงครามโลก แต่ในวิกฤติโควิด ก็มองว่ามีโอกาส จากเดิมที่การใช้เทคโนโลยี ดิจิทัลในระดับ 3 หรือ 4 ในช่วงปีครึ่งที่ผ่านมาก้าวกระโดดขึ้นมาอยู่ในระดับ 7 และเป้าหมายของเราคือ การก้าวไปสู่ระดับ 10

พริ้นซิเพิล แคปิตอล ชี้วิกฤติโควิด ดันคนวิ่งเข้าสู่ดิจิทัล

โดยเห็นได้จากการนำเทคโนโลยี ดิจิทัล เข้ามาใช้ในการรักษา การอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย การรักษาผ่านเทเล เมดิซีน,  เวอร์ชวล ฮอทพิทอล, โรงพยาบาลสนาม, แลป เอ็กซ์เรย์ ที่ทุกวันนี้ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลทั้งหมด

 

“Home Isolation ถือเป็นการดิสรัปท์ เฮลท์แคร์เมืองไทย ให้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ  เมื่อคนไข้ต้องอยู่บ้านไม่สามารถมาหาหมอได้ หมอเองก็ต้องรักษาพูดคุยกับคนไข้ทุกวัน ส่งยาให้กับผู้ป่วย จนทุกวันนี้กลายเป็นเรื่องในชีวิตประจำวัน”

 

เหตุการณ์ สถานการณ์ การเจ็บป่วย ความเป็นความตาย ทำให้ทุกคนวิ่งเข้าสู่ดิจิทัล มีศึกษาวิจัยร่วมกันถึงผลที่เกิดจากโควิด โดยเฉพาะไวรัสกลายพันธุ์เดลต้า ที่พบว่าสาหัสมาก ทำให้เกิดการรวมตัวของสหวิชาชีพ หมอโรคปอด โรคติดเชื้อ โรคไต ฯลฯ มาร่วมมือกันในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ทำงานร่วมกัน แชร์ข้อมูลกัน สิ่งเหล่านี้สำคัญมาก

 

วันนี้เราเห็นว่า การแพทย์แผนไทยมีการปรับตัวเยอะมาก  คนไข้ถ้าเชื้อยังไม่ลงปอด ฟ้าทะลายโจร ก็เอาอยู่ และยังมีการดีไซน์และพัฒนาเป็นฟ้าทะลายโจรแบบผง นอกจากนี้ยังมีกระชาย มีสารสกัดหลายตัวเอามาใช้ยับยั้งไวรัส เป็นต้น

พริ้นซิเพิล แคปิตอล ชี้วิกฤติโควิด ดันคนวิ่งเข้าสู่ดิจิทัล

ดร.สาธิต กล่าวอีกว่า การเดินหน้าสู่ดิจิทัล  ทรานฟอร์เมชั่น บริษัทได้จัดทำโรดแมฟ ซึ่งมีการพัฒนามาต่อเนื่อง ก่อนที่จะปรับตัวอย่างรุนแรงในปีที่ผ่านมา ทั้งการทำแอพพลิเคชั่น  ฮอทพิเทล  แล็ปเอ็กซ์เรย์ ซึ่งทุกอย่างทำขึ้นได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยมีเป้าหมายก้าวสู่ 4.0 เฮลท์แคร์ แพลตฟอร์ม

 

ซึ่งการดำเนินงานเกิดขึ้นภายใต้กลยุทธ์ พาร์ทเนอร์ชิพ เพราะรู้ว่าการทำงานในยุคใหม่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ซึ่งวันนี้ได้กลุ่มเจนเนเรชั่น Y และ Z สตาร์ทอัพ เข้ามาร่วมจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มนี้อาจจะขาดความรู้เรื่องของเฮลท์แคร์  แต่มีทักษะด้านเทคโนโลยี ดิจิทัล AI  เอามาผนวกกับองค์ความรู้ที่บริษัทมี

 

อย่างไรก็ดี แผนการเดินหน้าของบริษัท จากปัจจุบันที่มีโรงพยาบาลอยู่ 12 โรงพยาบาล จะขยายเพิ่มขึ้นให้ได้ 20 โรงพยาบาลและ 100 คลินิก พร้อมกับผนึกพันธมิตรที่มีองค์ความรู้ด้านเฮลท์แคร์ ในการดำเนินงาน เช่น รพ.บำรุงราษฎร์  หรือ พันธมิตรจากญี่ปุ่น ในการรักษา การร่วมกับพันธมิตรภาครัฐ เอกชนในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามแสงแห่งใจ ที่รองรับผู้ป่วยโควิดในระดับสีเหลือง 450 เตียงและสีแดงอีก 76 เตียง  เป็นต้น

พริ้นซิเพิล แคปิตอล ชี้วิกฤติโควิด ดันคนวิ่งเข้าสู่ดิจิทัล

ดร.สาธิต กล่าวอีกว่า เรื่องของเฮลท์แคร์ แพลตฟอร์ม อินโนเวชั่น เป็นเรื่องของ คน , กระบวนการ และเทคโนโลยี ที่ผนึกรวมกันจนเกิดเป็นดิจิทัล เห็นได้จากการจัดทำ Home Isolation ที่ใช้แพทย์จากชุมพร ร่วมในการรักษาผู้ป่วย โดยมีระบบคลาวนด์ในการเชื่อมโยง

 

ทุกวันนี้ จึงสามารถกล่าวได้ว่า Innovation for Life  ขณะเดียวกันเรื่องของ “ข้อมูล” (Data) ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลของผู้ป่วย ซึ่งในอนาคตบริษัทมีแผนพัฒนาบล็อกเชน เพื่อเพิ่มเรื่องของความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้นด้วย