เช็คเลย คิวโอนเงินช่วยเหลือผู้ประกันตน ม.33 ม.39 ม.40-เยียวยานักเรียน

15 ส.ค. 2564 | 04:05 น.

โฆษก ศบศ. เผย “บิ๊กตู่”สั่งเดินหน้าเร่งเยียวยา ชี้โอนเงินเยียวยาผู้ประกันตน ม.33 พื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้มแล้วกว่า 6,500 ล้านบาท เตรียมโอนอีก 16 จังหวัด พร้อมกับผู้ประกันตน ม.39 -และม.40 กลุ่มแรก 24 ส.ค.64 ส่วนเงินเยียวยานักเรียน 2,000 บาท โอน 31 ส.ค.นี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค.64 สำนักงานประกันสังคม(สปส.) ได้โอนเงินเยียวยานายจ้างและลูกจ้างผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในพื้นที่ 13 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้มไปแล้ว แบ่งเป็น ลูกจ้าง 2,399,459 ราย เป็นเงิน 5,998.65 ล้านบาท และทำการโอนให้นายจ้างไปแล้ว 12,711 กิจการ เป็นเงิน 594.12 ล้านบาท รวมยอดเงินที่ทำการโอนไปแล้วจำนวน 6,592.77 ล้านบาท 

ผู้ประกันตน ม.39 และ ม.40 พื้นที่ 29 จังหวัดสีแดงเข้ม กลุ่มแรกโอนวันที่ 24 ส.ค.

นายธนกร กล่าวต่อไปว่า โดยจะดำเนินการทยอยโอนให้ลูกจ้างและนายจ้างตามมาตรา 33 ในพื้นที่ 16 จังหวัดที่ลงทะเบียนและจ่ายเงินสมทบภายในวันที่ 24 ส.ค.64 ต่อไป พร้อมกับโอนเงินให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่ 29 จังหวัด กลุ่มแรกวันที่ 24 ส.ค.นี้เช่นกัน ซึ่งจะทยอยโอนวันละ 1 ล้านราย โดยผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสิทธิได้ที่เว็บไซต์ สปส.

เยียวยานักเรียน 2,000 บาทโอน 31 ส.ค.นี้

โฆษก ศบศ. กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้ามาตรการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของครัวเรือนและประชาชน เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครองและนักเรียนนักศึกษาทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ประจำปีการศึกษา 1/2564 ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะนี้อยู่ระหว่างการยืนยันตรวจสอบสิทธิ์การได้รับความช่วยเหลือ 

โดยเบื้องต้นกระทรวงศึกษาธิการ จะโอนเงินช่วยเหลือให้นักเรียนและผู้ปกครองในอัตรา 2,000 บาทต่อคน ในวันที่ 31 ส.ค.นี้ โดยมีผู้ได้รับเงินเยียวยาในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการมีประมาณ 11 ล้านคน วงเงินรวมประมาณ 21,600 ล้านบาท

เร่งพิจารณาเชื่อมต่อแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่-โครงการคนละครึ่ง

สำหรับมาตรการเยียวยาและการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 เพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษนั้น ยอดการใช้จ่ายของแต่ละโครงการ ผู้ใช้สิทธิสะสมรวม 38 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสมรวม 62,967.7 ล้านบาท แบ่งเป็น

  1. โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 23.49 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 56,339.7 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 28,588.2 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 27,751.5 ล้านบาท 
  2. โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 66,101 คน ยอดใช้จ่ายสะสม 1,161 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายด้วย e-voucher สะสม 31 ล้านบาท 
  3. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 13.48 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 5,110.8 ล้านบาท 
  4. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 979,821 คน ยอดใช้จ่ายสะสม 325.2 ล้านบาท

นอกจากนี้ รัฐบาลยังเร่งพิจารณาเชื่อมต่อแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่เพื่อให้สามารถเชื่อมกับโครงการคนละครึ่งด้วย คาดว่าจะดำเนินการเชื่อมระบบเสร็จสิ้นและพร้อมใช้งานได้ในเดือน ต.ค.64 เพื่อให้ทันกับการรองรับการโอนเงินคนละครึ่งรอบ 2 อีกจำนวน 1,500 บาท