“ที่ดิน คือ ชีวิต" รัฐมนตรีนิพนธ์ มอบโฉนดที่ดินให้“ชาวสตูล”ถึงบ้าน

12 ส.ค. 2564 | 08:04 น.

“ที่ดิน คือ ชีวิต" รัฐมนตรีนิพนธ์ มอบโฉนดที่ดินถึงบ้านให้ชาวสตูล ชี้กรรมสิทธิ์ในที่ดินช่วยเร่งการพัฒนาเมือง สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชน

วันที่ 12 สิงหาคม 2564 ที่ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการมอบโฉนดที่ดินตามโครงการมอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน โดยมีนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  หัวหน้าส่วนราชการ นายเกตุชาติ เกษา พรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรม

 

สำหรับการมอบโฉนดในครั้งนี้เพราะอยู่ในช่วงภาวะวิกฤตการณ์โควิด -19 ที่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม จึงเป็นการเดินแจกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนตามบ้านเรือน รวมทั้งสิ้น 16 แปลง ในพื้นที่มัสยิดบ้านตะโล๊ะใส ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล โดยปฏิบัติไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เพื่อเป็นการดูแลความปลอดภัยของประชาชน และเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างเคร่งครัด

      “ที่ดิน คือ ชีวิต" รัฐมนตรีนิพนธ์ มอบโฉนดที่ดินให้“ชาวสตูล”ถึงบ้าน    “ที่ดิน คือ ชีวิต" รัฐมนตรีนิพนธ์ มอบโฉนดที่ดินให้“ชาวสตูล”ถึงบ้าน

นายนิพนธ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยห่วงใยประชาชนทุกคนทุกภูมิภาค ปรารถนาให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมุ่งเน้นถึงเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน สร้างความสุขให้พี่น้องประชาชน เป็นการทำให้ประชาชนมีเอกสารสิทธิ์ ที่เป็นโฉนดที่ดินมีหลักประกันในชีวิตเพิ่มขึ้น มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งกระทรวงมหาดไทยโดยกรมที่ดิน ต้องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน 

 

ดังนั้น การออกโฉนดที่ดินที่ได้รับจากทางราชการเป็นเอกสารสิทธิ์จึงมีความสำคัญ สามารถนำไปสร้างงาน สร้างรายได้ เกิดแรงจูงใจที่จะพัฒนาที่ดินเพื่อเพิ่มผลผลิตสร้างรายได้ยกระดับคุณภาพชีวิต  จึงขอให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับแจกโฉนดที่ดินหวงแหนที่ดินของตนเอง อย่านำไปจำหน่าย จ่าย โอน โดยไม่จำเป็น 
     “ที่ดิน คือ ชีวิต" รัฐมนตรีนิพนธ์ มอบโฉนดที่ดินให้“ชาวสตูล”ถึงบ้าน

“ผมได้ผลักดันอย่างเต็มที่ในการขยายผลเรื่องการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของการเข้าถึงโอกาสทางสังคม เข้าถึงทรัพยากรของประเทศ ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ช่องว่างของความเหลื่อมล้ำทางสังคมลดลง

 

แต่สิ่งสำคัญเมื่อพี่น้องประชาชนได้รับโฉนดที่ดินไปแล้ว ขอให้ดูแลรักษาไว้ให้ดี หลายคนเป็นที่ดินที่ครอบครองต่อจากบรรพบุรุษ ก็อยากให้ที่ดินดังกล่าวได้ส่งต่อไปถึงลูกหลาน รวมทั้งเกิดแรงจูงใจที่จะพัฒนาที่ดินเพื่อสร้างรายได้ยำไปสู่การพัฒนาเมือง เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตต่อไป” นายนิพนธ์ ระบุ