สธ.ไขปมถอนงานวิจัย"ฟ้าทะลายโจร"รักษาโควิด-19

09 ส.ค. 2564 | 12:45 น.

สธ.เฉลยปมเหตุใดถอนงานวิจัย "ฟ้าทะลายโจร" รักษาโควิด-19 แจงมีข้อผิดพลาดการคำนวณตัวเลขสถิติ 1 จุด แต่ยืนยันไม่กระทบงานวิจัยหลัก ย้ำชัดเจนฟ้าทะลายโจรช่วยลดปอดอักเสบผู้ป่วยโควิดอาการเล็กน้อย

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่า จากประเด็นการศึกษาวิจัยฟ้าทะลายโจร เมื่อเริ่มพบการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคใหม่ ยังไม่มียาที่ได้รับรองการรักษาโดยตรง จึงมีการศึกษายาชนิดต่างๆ ที่คาดว่าจะใช้รักษาโควิดได้ 


กรมการแพทย์แผนไทยฯ จึงศึกษาฟ้าทะลายโจรที่มีคำตอบระดับห้องทดลองแล้ว โดยศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของฟ้าทะลายโจรสกัดในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงอายุ 18-60 ปี ไม่มีโรคประจำตัว และศึกษาแบบกสุ่มตัวอย่างเปรียบเทียบ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับสารสกัดฟ้าทะลายโจรในปริมาณที่คำนวณสำหรับการรักษา จำนวน 29 ราย และกลุ่มเปรียบเทียบที่ได้รับยาที่ไม่มีสารสกัดฟ้าทะลายโจร (ยาหลอก) 28 ราย พบว่ามีแนวโน้มได้ผลดี ลดการพัฒนาของโรคไม่ให้เดินหน้ารุนแรงขึ้นจนมีปอดอักเสบ

 

สำหรับกลุ่มที่ได้รับสารสกัดฟ้าทะลายโจรไม่พบอาการปอดอักเสบทั้งหมด กลุ่มที่ใช้ยาหลอกมีปอดอักเสบ 3 ราย คิดเป็น 10.7% ขณะที่การคงอยู่ของตัวไวรัสในวันที่ 5 ของกลุ่มที่ได้รับสารสกัดฟ้าทะลายโจรพบตัวไวรัส 10 ราย ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้สารสกัดฟ้าทะลายโจร พบตัวไวรัสเกินครึ่งคือ 16 ราย 


แพทย์หญิงอัมพร กล่าวเพิ่่มเติมว่า จากผลดังกล่าวจึงตอกย้ำความเป็นไปได้ของฟ้าทะลายโจรที่มีประสิทธิภาพในการรักษา และไม่พบปัญหาผลกระทบเรื่องตับ ไต และระบบเลือด ถือว่ามีความปลอดภัยจึงผลักดันการศึกษาต่อเนื่อง นำไปสู่ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและการใช้ยา
 

ทั้งนี้ทีมนักวิจัยของกรมการแพทย์แผนไทย ฯ ได้เสนอผลวิจัยในระดับนานาชาติ โดยส่งไปตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ เพื่อแบ่งปันเพื่อนนักวิจัยแวดวงอื่น ซึ่งในงานวิจัยมีการคำนวณค่าต่างๆ โดยพบความผิดพลาดทางสถิติ 1 จุด คือ ค่านัยสำคัญทางสถิติ เนื่องจากจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ค่อนข้างน้อย ตอนแรกค่านัยสำคัญทางสถิติอยู่ที่ 0.03 หมายถึงทดลอง 100 ครั้ง ผลลัพธ์คงเดิม 97 ครั้งระหว่างรอตีพิมพ์มีการพิจารณาอีกครั้งพบว่าค่าอยู่ที่ 0.112 หมายถึงทดลอง 100 ครั้ง ผลลัพธ์คงเดิม 90 ครั้ง 


แพทย์หญิงอัมพร  กล่าวว่า จากกรณีนี้เอง ทำให้ต้องถอนงานวิจัยออกมา เพราะเป็นเรื่องสำคัญในทางวิชาการ นักวิจัยต้องมีความซื่อสัตย์ต่อผลลัพธ์ จึงนำเอกสารกลับมาแก้ไขให้ถูกต้องก่อนส่งกลับไปตีพิมพ์ใหม่ มิได้ถูกปฏิเสธจากวารสารแต่อย่างใด และเนื้อหางานวิจัยหลักยังเป็นไปตามรายงานฉบับแรก คือ ใช้ป้องกันผู้ติดโควิดอาการเล็กน้อยไม่ให้เกิดภาวะปอดอักเสบ ทิศทางนโยบายการใช้ฟ้าทะลายโจรจึงยังเหมือนเดิม ทั้งการจ่ายยาในระบบการดูแลที่บ้านหรือชุมชน

สำหรับสารสกัดฟ้าทะลายโจรถือว่าเป็นยา ต้องใช้อย่างระมัดระวังภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ควรรับประทาน 180 มิลลิกรัมต่อวัน แบ่งวันละ 3 ครั้งต่อเนื่อง 5 วัน ส่วนเด็กอายุ 4 ปีขึ้นไปรับประทาน 3.5-5 มิลลิกรัมต่อวัน แบ่งวันละ 3 ครั้งต่อเนื่อง 5 วัน 

 

ข้อห้ามใช้คือผู้ที่มีอาการแพ้ หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร เพราะอาจกระทบทารกได้ ผู้ป่วยโรคตับและไตอาจทำให้ยาสะสมในร่างกาย เนื่องจากกำจัดยาได้ช้า รวมถึงผู้ที่รับประทานยาตัวอื่น เช่น วาร์ฟาริน แอสไพริน โคลพิโดเกรล ยาลดความดันโลหิต