หมอ-พยาบาลมุ่งหน้าสถานทูตสหรัฐ ข้องใจการจัดสรรวัคซีนบริจาค "ไฟเซอร์"

27 ก.ค. 2564 | 02:36 น.

กลุ่มแพทย์-พยาบาลนัดรวมตัวหน้าสถานทูตสหรัฐ 10.30 น. วันนี้  เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกขอให้ช่วยตรวจสอบจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสที่สหรัฐบริจาคให้ไทย อยากให้ถึงมือบุคลากรด่านหน้า และประชาชนกลุ่มเสี่ยงอย่างแท้จริง

27 ก.ค. 64 กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ประกอบด้วย ภาคีบุคลากรสาธารณสุข, หมอไม่ทน และกลุ่ม Nurses Connect  เตรียมเดินทางไปยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงสถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย วันนี้ เวลา 10.30 น. เพื่อขอความร่วมมือให้ทางสถานทูตช่วยตรวจสอบและระบุเงื่อนไขในการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์( Pfizer) จำนวน 1.5 ล้านโดสที่สหรัฐบริจาคให้ไทย ให้ถึงบุคลากรด่านหน้า และประชาชนกลุ่มเสี่ยงอย่างแท้จริง

 

ทั้งนี้ แถลงการณ์ร่วมของกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ได้เรียกร้องกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เรื่องความโปร่งใสในการกระจายวัคซีน Pfizer ที่จะเข้ามาในวันที่ 29 ก.ค. นี้ หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าบุคลากรการแพทย์ด่านหน้าจะได้รับการฉีดวัคซีน Pfizer มากกว่า 500,000 โดส โดยจะเริ่มฉีดต้นเดือนสิงหาคม

 

แต่สถานการณ์ขณะนี้นับว่ามีความขัดแย้งกับคำกล่าวข้างต้นอย่างมาก เมื่อพิจารณาถึงความจริงที่ว่าขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน AstraZeneca เป็นบูสเตอร์โดสเข็ม 3 ทั้งด้วยความไม่มั่นใจในการมาถึงของ Pfizer การถูกทำให้เชื่อว่าจะไม่มีวัคซีน Pfizer เข้ามา และการคาดการณ์ว่า Pfizer จะเข้ามาไม่พอสำหรับบุคลากรฯ ทั้งหมด โดยมีหลักฐานและข้อยืนยันจำนวนมากที่พิสูจน์ว่าสภาพการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเวียนในโรงพยาบาลหรือการประกาศว่าจะไม่รับผิดชอบหากบุคลากรฯ ที่ยืนยันจะรอ Pfizer ติดโควิดในระหว่างรอวัคซีน

 

แถลงการณ์ยังระบุว่า สภาพการณ์ดังกล่าว นำไปสู่การตั้งคำถามว่าขณะนี้มีบุคลากรทางการแพทย์ได้รับวัคซีน AstraZeneca ไปแล้วเท่าใด และยังมีเจตจำนงรอฉีดวัคซีน Pfizer ต้นเดือนหน้าดังที่กระทรวงสาธารณสุขกล่าวอ้างเท่าใด มีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับการกระจายวัคซีนครั้งนี้ ทว่ากระทรวงสาธารณสุขซึ่งมีข้อมูลของบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดในมือกลับไม่เปิดเผยตัวเลขอย่างโปร่งใสชัดเจน

 

ดังนั้น เพื่อความโปร่งใสและการกระจายวัคซีนให้ถึงมือผู้ควรได้รับโดยปราศจากเส้นสาย  ทางกลุ่มหมอไม่ทน, ภาคีบุคลากรสาธารณสุข, Nurses Connect , สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทย (IFMSA Thailand Official) และ DNA บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร  จึงขอเรียกร้องต่อกระทรวงสาธารณสุขดังนี้

 

  1. นำวัคซีน mRNA มาเป็นวัคซีนหลักให้คนไทยทุกคน
  2. ชี้แจงและเปิดเผยข้อมูลว่ามีบุคลากรฯ ได้รับวัคซีน AstraZeneca เป็นบูสเตอร์โดสไปแล้วเท่าใด และยังเหลือบุคลากรฯ ที่ยืนยันจะรับไฟเซอร์เป็นจำนวนเท่าใด เพื่อให้จำนวนวัคซีนที่ได้รับพอดีกับบุคลากรฯ ไม่มีเศษตกหล่นติดตามไม่ได้นอกระบบ
  3. นำข้อมูลสำคัญที่จะพิสูจน์ความโปร่งใสกลับมาบรรจุในระบบ Cold-chain tracking นั่นคือเส้นทางการกระจายวัคซีนโดยระบุยี่ห้อและล็อตต่างๆ ของวัคซีน และเปิดให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย เพื่อแสดงความรับผิดชอบของรัฐต่อประชาชน และให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการก้าวข้ามวิกฤต
  4. ระบุผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจนกรณีเกิดการจัดสรรการกระจายวัคซีนผิดพลาดหรือทุจริต

 

นอกจากนั้น ทางกลุ่มยังเชิญชวนประชาชนทุกคนร่วมลงชื่อสนับสนุนการนำ mRNA มาเป็นวัคซีนหลักทาง change.org/vaccinewetrust และร่วมจับตามองการกระจายวัคซีนครั้งนี้

หมอ-พยาบาลมุ่งหน้าสถานทูตสหรัฐ ข้องใจการจัดสรรวัคซีนบริจาค "ไฟเซอร์"