โรงงานกิ่งแก้วระเบิด วสท.เตือนใครใกล้ 5 กม. เหตุสงบ อย่าเพิ่งรีบเข้าบ้าน

5 ก.ค.2564 - จากเหตุโรงงานผลิตโฟม และเม็ดพลาสติด ' หมิงตี้เคมีคอล ' ในพื้นที่ ถนนกิ่งแก้ว อำเภอ บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เกิดไฟไหม้ ระเบิดรุนแรง  ตั้งแต่ช่วง 3 นาฬิกาของเช้าวันนี้ และมีการระเบิดซ้ำอีกระลอก โดยอัพเดทล่าสุด มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บราว 50 ราย อีกทั้งแรงระเบิดได้ทำให้บ้านเรือนประชาชนบริเวณใกล้เคียงเสียหายเป็นวงกว้าง นับ 70 หลัง 

ขณะจังหวัด ประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ตรวจสอบ พิกัดรัศมีการอยู่อาศัยของตัวเอง ระบุ ใครอยู่ภายใน 5 กม. จากโรงงานเคมี "หมิงตี้เคมีคอล" ที่ระเบิดเมื่อคืน ให้อพยพด่วน เนื่องจาก อาจได้รับผลกระทบจาก สารเคมีรั่วไหล - ควันพิษ และอาจมีเหตุเกิดซ้ำ 

ล่าสุดมีรายงาน ที่แจ้งว่า มาจากทีมสื่อสารของกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัย ดับเพลิง สามารถจำกัดบริเวณที่เกิดเหตุได้ระดับหนึ่งแล้ว มีเครื่องบินวนตลอด และคาดว่าจะสามารถควบคุมเพลิงได้ในระยะต่อไป 

ด้าน ปภ.ปฎิเสธข่าว พบถังสารเคมีอยู่ลึกใต้ดินอีก 5 แสนลิตร กำลังปะทะ หลังจากมีสื่อออนไลน์บางสำนัก นำไปรายงาน โดยเบื้องต้น ปภ. ยืนยันว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลในเรื่องนี้แต่อย่างใด เช่นเดียวกับ เพจแจ้งข่าวของจังหวัดสมุทรปราการ ระบุว่า เป็นข่าวลือ ข้อมูลเท็จ 

อย่างไรก็ตาม  รองศาสตราจารย์เอนก ศริพาณิชกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานฯ วสท. ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ระบุว่า จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้น ความเสียหายที่เกิดจากการระเบิดในระดับรุนแรงและเป็นพื้นที่อันตรายจะอยู่ภายในรัศมีประมาณ 5 - 10 กิโลเมตร เพราะการระเบิดทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของพื้นดินจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่บริเวณใกล้เคียง 

ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ได้แบ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ เรียงลำดับจากรุนแรงที่สุดไปถึงน้อยที่สุด ไล่จากพื้นที่ของตำบลราชาเทวะ เขตลาดกระบัง และแนวชายขอบสะพานสูงเป็นไปได้ว่าอาจจะไปไกลได้ถึงบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ 

ส่วนความเสียหายในภาพรวมจากแรงระเบิดเท่าที่ วสท.ได้รับรายงานมา ตัวโครงสร้างหลักของโรงงานได้รับผลกระทบไม่มาก แต่โครงสร้างรอง อย่างเช่น หน้าต่าง บานประตู แตกกระจาย ส่วนนี้จะได้รับความเสียหายหนักมากกว่าเนื่องจากลักษณะการระเบิดเป็นแนวขนานด้วยจะไม่กระทบแค่พื้นดินอย่างเดียวมันไปกระทบกับสิ่งปลูกสร้างด้วยทำให้เกิดการสั่นของโครงสร้างตามมา ดังนั้นโครงสร้างที่อ่อนแอกว่าจะเกิดความเสียหายมากกว่า 

เบื้องต้นจึงขอให้ประชาชนที่อยู่อาศัยโดยรอบรัศมี 5 กิโลเมตร ประเมินโครงสร้างก่อน โดยเฉพาะเสาของบ้าน ถ้าเสาแตก นั่นจะอันตรายมาก ถ้าแตกรูปแบบของปากฉลาม  เพราะเสาเป็นตัวรับน้ำหนักของโครงสร้างโดยตรง ถ้ากระทบรุนแรงมากก้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้และยังไม่ควรกลับเข้าไปอยู่จนกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ ถ้าพนักหนัง กระจกแตกไม่เป็นไร เพราะเป็นโครงสร้างรอง

วสท.ยังประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบ บ้านเรือนได้รับความเสียหายและกังวลเรื่องความปลอดภัยของโครงสร้าง ให้ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือได้ที่เว็บไซต์ของ วสท. โดยตรงได้จะมีการประสานรับเรื่องและส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและประเมินความเสียหายให้กับประชาชนโดยไม่เสียค่าใช่จ่าย