“สมเกียรติ”แนะแนวทางรับมือสถานการณ์ในพม่าของประเทศไทย

22 มี.ค. 2564 | 12:05 น.

แนะแนวทางรับมือสถานการณ์ในพม่าของประเทศไทย

ทรรศนะและความเห็นของ สมเกียรติ โอสถสภา

ผมเดินทางไปพม่าครั้งแรกในคณะของท่านอดีตเลขาธิการ สมช. พลเอกจรัล กุลละวณิชย์ ราวปี 2536 ต่อจากนั้นก็เข้าพม่ารวม 20 ครั้งจะรู้จักสถานการณ์รอบประเทศ ต้องรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม พื้นที่ ผู้คน หน่วยงาน ฯลฯ

ผมจึงเดินดูพื้นที่ฝั่งพม่าที่เชื่อมต่อกับไทยทุกด้าน ดูพื้นที่บังกลาเทศ ลาว อินเดีย จีน ที่เชื่อมต่อกับพม่า แล้วกลับมาเดินดูเส้นทางในไทยรวมเส้นทางธรรมชาติที่ติดต่อกับพม่าทุกจังหวัด

ผมทำแบบนี้มานานร่วม 30 ปีเแล้ว คนที่นั่งอยู่แต่ในห้องประชุมไม่รู้อะไรมากนักหรอก ผมจึงพอพูดได้ว่ารู้เรื่องที่กำลังจะพูดนิดหน่อย และเข้าใจหน่วยราชการไทยที่กำลังทำงานรับสถานการณ์กันอยู่

สถานการณ์แบบนี้อยู่เฉยไม่ได้ เราต้องช่วยกัน

สรุปว่าเราควรทำอะไรบ้าง   เรื่อง ผู้อพยพจากพม่า

(1) อย่าประกาศหรือแสดงท่าทีสนใจที่จะรับผู้อพยพจากพม่า ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เพราะจะมีผู้พร้อมอพยพจากพม่าเข้าไทยทันทีหลายล้านคน

1.1 ที่มีจำนวนมากที่สุดคือพวกอพยพหนีพิษเศรษฐกิจ (economic migrants) เพราะชาวพม่ารู้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี มีการจำกัดการเบิกเงินจากธนาคาร การลงทุนต่างประเทศลดหรือหายไป เศรษฐกิจในตัวเมืองแย่ ทุกคนมองออก ทั้งจีน ลาว บังกลาเทศ อินเดีย ต่างห้ามชาวพม่าอพยพเข้าประเทศ ไทยจึงเป็นทางรอดทางเดียวของพวกอพยพหนีพิษเศรษฐกิจ

***เราจึงควรยึดนโยบายผลักดันผู้หลบหนีเข้าเมืองเช่นเดิม อย่าปล่อยเข้ามา จะไหลมาไม่หยุด***

รัฐบาลมีงบเท่าใด? เขาเข้ามาแล้วอยู่ยาวเลย

1.2 ชาวพม่าที่อ้างว่าต้องอพยพเพราะความขัดแย้งทางการเมือง คือคนที่เลือกพรรคซูจีทุกคน เกินกว่าครึ่งหนึ่งของพลเมืองพม่า ไทยรับไหวไหม?

1.3 การรับผู้อพยพพม่าแบบพฤตินัยโดยฝ่ายเดียว (unilateral) ไม่ปรึกษากับรัฐบาลพม่าก่อน จะทำให้ไทยมีสถานะเป็นคู่ขัดแย้งกับรัฐบาลพม่าทันที ถ้าทุกฝ่ายในพม่าไม่ขอมา ไทยอยู่เฉย ๆ จะดีกว่า เพราะฝ่ายที่อพยพมาจะมาจัดตั้งรัฐบาลพม่าพลัดถิ่นหรือกลุ่มต่อต้านติดอาวุธในไทย ทีนี้เป็นเรื่องยาวเลย

1.4 ระวังการตอบโต้จากฝ่ายรัฐบาลพม่า เพราะถ้ามีชาวพม่าอพยพมาไทยมาก รัฐบาลพม่าอาจประกาศให้พลเมืองพม่าไปรายงานตัว ณ ภูมิลำเนาในหนึ่งเดือน ออกแนวสำรวจสัมมโนประชากร หากไม่ไปจะถูกลบชื่อและสัญชาติออกจากพลเมืองพม่า

รัฐบาลพม่าทำมาแล้วครั้งปราบใหญ่เมื่อปี 2531 มีชาวพม่ามาตกคลั่กในไทยราวล้านคน พวกกะเหรี่ยงบางกลอยก็รวมอยู่ด้วย ประชากรในเชียงใหม่จริง ๆ มีหนึ่งล้าน แต่มีพม่าอีกเกือบล้าน ฝ่ายความมั่นคงของไทยจะต้องเตรียมรับมือเหตุการณ์ที่มีชาวพม่าพากันออกมาประท้วงเรื่องการเมืองของเขาด้วย ถ้าพม่าอพยพเข้ามาเพิ่มอีกสองล้านกว่าคนไทยจะรับไม่ไหวนะ

 

1.5 ตอนนี้ตะวันตกพยายามให้ไทยเปิดค่ายอพยพ องค์การระหว่างประเทศอย่าง UNHCR, IMO, และหน่วยงานช่วยเหลือผู้อพยพของหลายประเทศกำลังหางานทำ รัฐบาลชาติตะวันตกอย่างอเมริกาและยุโรปต้องการมีบทบาทผ่านค่ายอพยพ อีกทั้งพวก NGO หลายกลุ่ม อย่าได้จัดการประชุมนานาชาติเรื่องปัญหาผู้ลี้ภัยพม่าขึ้นในประเทศไทยเด็ดขาด อีแร้งจะลงทันที

1.6 ถ้าพม่าอพยพเข้ามามากคนไทยก็จะโกรธมาก เพราะตอนนี้ก็กำลังลำบากกันอยู่ อีกทั้งจะพาโรคโควิดมาระบาด รัฐบาลต้องสื่อสารให้ชัดเจน มิฉะนั้นหน่วยราชการจะทำงานลำบาก

1.7 ยุคนี้ไม่มีชาติใดรับผู้อพยพแล้วนะ แย่กันทั้งโลก เงินก็ไม่มี ผมไปดูค่ายโรฮิงญาที่ Cox Barzaar บังกลาเทศ มาแล้ว กองทัพส่งทหารไปดู ได้ ระวังโรคโควิดด้วย

1.8 ระวังด้วยว่าตอนนี้มีคนวางแผนจะให้เกิดเอเชียนสปริง (การลุกฮือขึ้นล้มรัฐบาลและการปกครอง เหมือนอาหรับสปริง ที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า) ขึ้นในไทยคู่ไปกับพม่า อย่าหลงกลเด็ดขาด นี่คือเกมอุบาทว์ระดับโลกของชาติตะวันตก

1.9 หากได้งบมาดูแลคนพม่าก็ผันไปทำอย่างอื่นใด้ เรื่องนี้ยาว

 1.10 ระวังโรคโควิดสายพันธุ์ใหม่ อ่านโพสท์ของ ดร.สันต์ หมอมานพ และหมอประสิทธ์นะครับ ช่วยชาติได้เลย สายพันธุ์มินดาเนาจากฟิลิปปินส์จะมาแรง แรงงานประมงทุกชาติเชื่อมกันในทะเลย่านนี้แหละ

ดีใจที่นายกเรียกประชุมรองนายกฯ คงคุยกันเรื่องพวกนี้แหละ

 ดีใจที่ ผบ.ทบ.บอกว่าไม่มีแผนตั้งค่ายรับผู้อพยพ  ให้กำลังใจนะครับ จะช่วยสอดส่องให้  เอาคนไทยเป็นหลักครับ

เรามีประสบการณ์

*********

เรื่องใหญ่สุดตอนนี้คือสถานการณ์ในพม่า

ฝากคนไทยที่รักชาติช่วยแชร์บทความของอาจารย์สมเกียรติในวงกว้างโดยด่วนด้วยครับ ขอบคุณครับ