คุมเข้มชายแดนตาก"สกัดอยู่"โควิดข้ามแดน

 

ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวรตรวจโควิด-19 ในศูนย์พักพิงบ้านแม่หละ มั่นใจ 5 อำเภอชายแดนไม่มีการแพร่ระบาดของคนในพื้นที่ ที่สัมผัสเชื้อจากเพื่อนบ้านคุมเข้ามาตรการเรียบ 

 

เหตุคนไทยลักลอบกลับเข้าประเทศจากฝั่งเพื่้อนบ้านติดเชื้อโควิด-19 ทางภาคเหนือ ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเพิ่มความเขัมตรวจตราชายแดน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้  พล.ต.อำนาจ  ศรีมาก  ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมด้วย พ.อ.ประสาน  เห็นประเสริฐ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 (แม่สอด) ลงพื้นที่ติดตามมาตรการ ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านแม่หละ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ซึ่งถือเป็นพื้นที่พักพิงชั่วคราว ที่ใหญ่ที่สุด อันดับต้นๆของประเทศ ปัจจุบันมีผู้อาศัย อยู่ภายในพื้นที่ พักพิง รวม 30,651  คน   

 

ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทาง พื้นที่พักพิงได้มีมาตรการ ในการควบคุมป้องกันโรค อย่างเข้มงวดและรัดกุม  ทั้งการควบคุมการเข้าออกพื้นที่พักพิง การจัดชุดลาดตระเวนของฝ่ายปกครองอำเภอท่าสองยาง ทหารพรานหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 และตำรวจภูธร ป้องกันการลักลอบเข้าออกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์การสวมหน้ากากอนามัย และจัดสถานที่กักกัน หรือ Local Quarantine ที่สามารถรองรับได้ถึง 40 คนภายในศูนย์ 

พล.ต.อำนาจ ศรีมาก ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร กล่าวว่า ในช่วงนี้มีการเล็ดลอดข้ามเเดนเพิ่มมากขึ้น ด้วยปัจจัยจากแรงบีบหรือแรงจูงใจใด ๆ ก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวดและใช้มาตรฐานเช่นเดิม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังนเรศวร สำหรับพื้นที่ 5 อำเภอชายแดนจังหวัดตาก มั่นใจว่ายังไม่พบการแพร่ระบาดการติดเชื้อระหว่างคนในพื้นที่ ที่พบจะเป็นการติดเชื้อสัมผัสมาจากประเทศเพื่อนบ้าน  แต่ก็อยู่ในการดูแลควบคุมตามมาตราการเป็นที่เรียบร้อย  

"เรามีการสร้างความเข้าใจและประชาสัมพันธ์อย่างจริงจัง ทั่วถึง ทั้งการประกอบการขนส่งสินค้าในพื้นที่ชายแดน ตามท่าส่งสินค้าต่างๆ ตามมาตรการที่ตกลงกันไว้  เช่นเดียวกับภาคการเกษตร ที่มีการประชาสัมพันธ์เพื่อป้องกันการใช้แรงงาน ที่หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดจากโควิด-19 ซึ่งรวมทั้งการข้ามแดนในลักษณะญาติพี่น้อง เนื่องจากพี่น้องชนเผ่าในพื้นที่ชายแดนจะมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกัน จึงจำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์ไม่ให้มีการข้ามแดนเข้ามา โดยเฉพาะราษฎรจากรัฐกะเหรี่ยงของเมียนมา ที่ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 

ส่วนผู้ป่วยโควิด ที่รักษาในโรงพยาบาลแม่สอด จำนวน 4 ราย ขณะนี้ผู้ป่วยรายแรกเป็นชาวเมียนมา พบในศูนย์อพยพบ้านอุ้มเปี้ยม อำเภอพบพระ รักษาหายผลักดันกลับประเทศเมียนมาแล้ว อีกรายเป็นสาวไทยอายุ 17 ปี ขณะนี้รอตรวจเชื้อซ้ำอีกครั้ง หากไม่พบก็สามารถกลับบ้านได้เช่นกัน ส่วนรายที่ 3 เป็นชาวเมียนมา นักธุรกิจค้ารถมือสองที่ไม่มีอาการ ขณะนี้ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล รายสุดท้ายเป็นชายไทยอายุ 70 ปี อาการเริ่มดีขึ้นแต่ยังต้องอยู่ในห้องความดันลบ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โควิด-19 ทำค้าชายแดนไทย จังหวัดตากชะงักชั่วคราว

สธ.ขยายผลการตรวจโควิด 19 เชิงรุกจังหวัดตากกว่าหมื่นราย

สธ.แถลงด่วน! พบ ผู้ติดโควิด-19 ที่จังหวัดตาก

 

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะเดียวกัน ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด โดยร้อยเครื่องยิงหนัก (.ค.หนัก ฉก.ร.4) ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณะสุข อ.แม่สอด, จนท.ตม.แม่สอด และผู้นำชุมชนตลาดพาเจริญ อสม.ประจำหมู่บ้าน ร่วมกันตรวจสอบ บุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา ลักลอบเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย และพักอาศัยอยู่ บริเวณ ตลาดสดพาเจริญ เขตเทศบาลนครแม่สอด  อ.แม่สอด จ.ตาก  พิกัด MU 537476  โดยตรวจจับ ได้จำนวน  7 คน ดังนี้  โดยว่ายน้ำข้ามมาบริเวณ สะพานมิตรภาพไทย – เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย  แห่งที่ 1.  

จากการสอบถามเบื้องต้น ทั้งหมดให้การว่าได้แอบลักลอบเข้ามาในประเทศไทย และพักอาศัยอยู่บริเวณตลาดสดพาเจริญ  เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดิน ปรากฏว่า ชาวเมียนมา ทั้ง 7 คน ไม่มีหนังสือเอกสารหรือเอกสารใด ๆ แสดงต่อเจ้าหน้าที่ จทน.จึงคุมตัวไว้เพื่อนำตัวส่งตรวจโรค และตรวจวัดอุณหภูมิขั้นต้น ไม่พบว่ามีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศา เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการส่งโรงพยาบาลแม่สอด  เพื่อตรวจหาเชื้อ โควิด – 19  หลังจากดำเนินการตามขั้นตอนของโรงพยาบาลแม่สอดแล้ว  ได้ส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก(ด่านแม่สอด) เพื่อนำไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป