"ขนมไหว้พระจันทร์" กับตำนานปฏิวัติมองโกล

29 ก.ย. 2563 | 06:00 น.

วันไหว้พระจันทร์หรือเทศกาลไหว้พระจันทร์ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ แน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ขนมไหว้พระจันทร์ หรือ Moon Cake ที่ต้องนำไปเซ่นไหว้ดวงจันทร์  ซึ่งปัจจุบันขนมไหว้พระจันทร์ในบ้านเราได้มีการดัดแปลง ให้มีความหลากหลาย ทั้งรูปทรงที่แปลกตาไปจากที่เคยเห็น รวมไปถึงรสชาติ - ไส้ต่างๆ อาทิ ช็อคโกแลต, ชาเขียว, คัสตาร์ด, อัลมอนด์ ,ไข่เค็มลาวา ,ไส้ไอศครีมรสชาติต่างๆ หรือบางเจ้ามีดัดแปลงใส่เนื้อสัตว์ต่าง ๆ เข้าไป เช่น กุนเชียง, ไข่เค็ม, หมูแฮม, หมูแดง, หมูหยอง เป็นต้น


ขณะที่สมัยก่อนนั้น ขนมไหว้พระจันทร์จะมีรูปทรงกลม เพราะว่าต้องการให้มีรูปทรงเหมือนพระจันทร์ เเละอีกอย่างคือ เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความรักใคร่กลมเกลียว ความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนในครอบครัว นอกจากนี้ลวดลายต่างๆ บนขนมไหว้พระจันทร์ยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความโชคดี
 

สำหรับขนมไหว้พระจันทร์ ทำจากแป้งนวด แล้วกดใส่แป้นพิมพ์ที่มีลวดลายต่าง ๆ จากนั้นนำไปอบ และเคลือบผิวหน้าด้วยน้ำเชื่อม ภายในบรรจุไส้ต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธัญพืชต่าง ๆ อาทิ ทุเรียน, เมล็ดบัว, แมคคาเดเมีย, พุทราจีน ,ไส้โหงวยิ้ง  เป็นต้น 


จิตรา ก่อนันทเกียรติ เคยโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กเกี่ยวกับขนมไหว้พระจันทร์ โดยในท่อนหนึ่งของเนื้อหาที่โพสต์ได้บอกว่า "คัดแล้วว่าดี คือขนมไหว้พระจันทร์ไส้โหงวยิ้ง หรือ 5 ถั่ว " โดย ไส้ 5ถั่วนี้แหละดีสุดอร่อยสุด จากตำนานการเกิดขนมไหว้พระจันทร์เพื่อปฏิวัติมองโกล เมื่อพศ.1896 ไส้ของขนมคือไส้โหงวยิ้งหรือถั่วทั้ง 5 เพราะคนต้นคิดน่าจะเป็นระดับอัจฉริยะที่มีมุมลึกซึ้งในความคิด มีความหมายลึกๆหมายถึงความสามัคคีของทั้งหญิงและชาย นั่นคือการรวมพลังกันเพื่อสู้กับมองโกล


ถือเป็นการบอกเล่าเรื่องราวรสชาติของขนมไหว้พระจันทร์ที่แฝงประวัติความเป็นมาให้กับเหล่าผู้อ่านได้รับรู้กัน 
 

โดยตามตำนาน(บทหนึ่ง)ที่เล่าขานความเป็นมาของขนมไหว้พระจันทร์ คือ ในยุคปลายราชวงศ์หยวน ที่ชาวฮั่นถูกปกครองอย่างกดขี่โดยชาวมองโกล ชาวฮั่นเมื่อต้องการจะก่อกบฏต่อต้าน ด้วยการแอบสอดสาส์นไว้ในขนมชิ้นนี้ แล้วนำไปแจกจ่ายให้กับทุกบ้าน ในสาส์นมีข้อความว่า คืนนี้ในเวลายาม 3 จงสังหารทหารมองโกลพร้อมกัน อันนำมาซึ่งเอกราชของชาวฮั่น จนกลายเป็นประเพณีการรับประทานและไหว้ขนมไหว้พระจันทร์ในปัจจุบัน