จากแผนฟื้นฟูขสมก.ระบบใหม่ ที่ประกอบไปด้วย 5 ข้อได้แก่ 1ลดภาระประชาชน โดยเหมาจ่ายไม่จำกัดเที่ยว 30 บาท ส่วนเที่ยวเดียว 15 บาท มีบัตรรายเดือน 720 บาทต่อเดือน (24 บาทต่อวัน) นักศึกษา 630 บาทต่อเดือน (21 บาทต่อวัน ) ผู้สูงอายุลด 50 % และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถใช้ได้ 2.ลดเส้นทางทับซ้อน โดยจะลดจาก 269 เส้นทางเหลือ 162 เส้นทาง และปล่อยรถเร็วขึ้น 5 - 10 นาทีต่อเที่ยว
3.ลดมลภาวะ โดยรถรุ่นใหม่ที่ออกมาวิ่งจะเป็นรถใช้พลังงานเอ็นจีวี และ อีวี ทุกคันประกอบในประเทศไทยหมด 4.ลดการกู้เงิน เพื่อลดการขาดทุนในระยะสั้น ระยะยาวหยุดการขาดทุน ไม่เป็นภาระของรัฐ และ 5. ลดค่าดำเนินการ โดยปรับโครงสร้าง เพิ่มประสิทธิภาพ และลดพนักงาน
ภายหลังจากการเริ่มดำเนินการตามแผนฟื้นฟูใหม่ ในส่วนของการปรับราคาค่าโดยสารที่แต่เดิมราคาเริ่มต้น 8 บาทสำหรับรถธรรมดา ส่วนรถปรับอากาศราคาเริ่มต้น 12 บาท ซึ่งงานนี้ก็เกิดคำถามว่าราคาเริ่มต้นที่แพงกว่าเดิมนั้น จะคุ้มค่าไหม โดยทางเพจเฟซบุ๊กของขสมก.หรือ BMTAองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ก็ได้ออกมาชี้แจงแถลงไขให้ฟัง ประกอบไปด้วย
1. บัตรโดยสารใหม่ สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการเดินทางของทุกคนได้ คือ
- แบบเที่ยวเดียว
- แบบเหมาวัน จะคุ้มค่าสำหรับผู้ที่เดินทางหลายต่อ
และยังสามารถซื้อรายเดือนได้ โดยมีส่วนลดให้นักเรียนและผู้สูงอายุอีกด้วย
2. เมื่อเปรียบเทียบกับค่าโดยสารปัจจุบัน อาจจะแพงกว่าเล็กน้อยสำหรับรถเมล์ขาว-แดง แต่ถูกกว่ารถปรับอากาศแน่นอน และถ้าในการเดินทางนั้นต้องต่อรถหลายสาย ยังไง 30 บาทเหมาวันก็ถูกกว่า
3. นอกจากราคาที่คุ้มค่ามากขึ้น ยังได้คุณภาพรถที่ดีกว่า เป็นรถปรับอากาศและไม่มีมลพิษ สามารถใช้บัตรเดียวกับทั้งรถของขสมก.และรถร่วมบริการ ทำให้ใช้ได้สะดวก ต่อรถได้ง่าย เหมาะกับเส้นทางเดินรถใหม่ ที่ระยะสั้นลงเพื่อให้เวียนรถได้บ่อยขึ้น