ชาว"ห้วยคลิตี้"ยังไม่สิ้นกรรม กรมควบคุมมลพิษเร่งปิดงาน"1,000วัน" ฟื้นฟูลำห้วยจากการปนเปื้อนสารตะกั่วภายในก.ค.นี้ จ่อเสนอของบฟื้นฟูระยะ 2 ต่อ เนื่องจากตรวจสอบพบพื้นที่ปนเปื้อนอีกนอกขอบเขตงานโครงการแรก
นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.)กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า คพ. ได้รับการจัดสรรงบประมาณผูกพัน ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2559–2563 เพื่อดำเนินโครงการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ ที่จังหวัดกาญจนบุรี จากการปนเปื้อนสารตะกั่ว ซึ่งเริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 1,000 วัน จะครบกำหนดในเดือนสิงหาคม 2563 นี้ กิจกรรมการดำเนินโครงการฯ ประกอบด้วย การขุดลอกลำห้วยคลิตี้ การฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อนรอบโรงแต่งแร่เดิม การก่อสร้างหลุมฝังกลบแบบปลอดภัย และการก่อสร้างฝายดักตะกอนเพิ่มเติม
ณ ปัจจุบัน ในเดือนมิถุนายน 2563 ได้ดำเนินการมาแล้ว 955 วัน มีความก้าวหน้าการดำเนินงานคิดเป็นประมาณร้อยละ 88 ของงานทั้งหมด โดยมีงานที่ได้มีการดำเนินการแล้วเสร็จ ประกอบด้วย งานสำรวจ งานก่อสร้างหลุมฝังกลบแบบปลอดภัย การฟื้นฟูพื้นที่บริเวณรอบโรงแต่งแร่เดิม การปรับปรุงถนน และการสร้างฝายดักตะกอนจำนวน 1 ฝาย
เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา ที่ยังเหลืออีกเพียงประมาณ 2 เดือน จึงได้ลงพื้นที่เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการไตรภาคี เพื่อติดตามการดำเนินโครงการฯ ที่กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563 และตรวจสอบความคืบหน้าของโครงการ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเร่งขุดลอกตะกอนในลำห้วยที่เหลือในบริเวณคลิตี้ล่าง การขุดกองกากแร่ที่ถูกทิ้งไว้ในบริเวณต่าง ๆ แล้วนำไปปรับเสถียรก่อนขนส่งไปบรรจุยังหลุมฝังกลบแบบปลอดภัย การจัดทำรางระบายน้ำรอบบ่อเก็บหางแร่เดิมและทำรั้วรอบ การก่อสร้างฝายดักตะกอนอีก 1 ฝาย โดยได้ใช้โอกาสเดียวกันทำความเข้าใจกับชาวบ้าน เนื่องจากการทำงานของโครงการที่ผ่านมาประสบปัญหาอุปสรรคทางด้านเทคนิค สภาพพื้นที่ รวมทั้งปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19
นายประลอง กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาหลังจากมีการฟื้นฟูมาเป็นระยะเวลา 3 ปี ได้มีการตรวจพบพื้นที่ปนเปื้อนเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่อยู่ในขอบเขตการดำเนินงานของโครงการปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อให้การฟื้นฟูลำห้วยเป็นไปอย่างยั่งยืน จึงได้เสนอโครงการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ฯ ระยะที่ 2 เพื่อดำเนินการต่อเนื่องในปีงบประมาณ 2564 โดยได้จัดทำร่างขอบเขตการดำเนินงาน รายการปริมาณงาน และราคาเบื้องต้น เพื่อขอตั้งงบประมาณ พร้อมทั้งหารือกับสำนักงบประมาณและกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เพื่อกำหนดขอบเขตงานและสำรวจพื้นที่ร่วมกัน อีกทั้งยังได้ประสานและเตรียมการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อดำเนินการฟื้นฟูเพิ่มเติมอีกด้วย
ทั้งนี้ คพ. ขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าจะดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่คลิตี้ เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย