ข้อเท็จจริง 10 วัน หลัง"คลายล็อกดาวน์"รอบแรก

12 พ.ค. 2563 | 06:21 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ค. 2563 | 03:01 น.

ไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด19 ลดลงต่อเนื่อง ลุ้น “ศบค.” เคาะคลายล็อกดาวน์เฟส 2 ให้ 3 กลุ่มกิจการ 15 พ.ค.นี้

นับตั้งแต่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. มีมาตรการคลายล็อกดาวน์ 6 กลุ่มกิจการไปเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมเตรียมคลายล็อกระยะที่ 2 ให้กับ 3 กลุ่มกิจการในวันที่ 15 พ.ค.นี้ โดยเงื่อนไขสำคัญของการผ่อนคลายมาตรการอยู่ที่แนวทางการดำเนินการด้านสาธารณสุขเป็นหลัก เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ของไทยอยู่ในวงจำกัดและสามารถควบคุมได้นั่นเอง

 

หากย้อนไปดูข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ เริ่มจากก่อนวันคลายล็อก ศบค.รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ของไทยไม่อาจคาดเดาได้ บางวันอยู่ที่เลขสองหลัก เช่น ในวันที่ 24 เม.ย.จำนวน 15 ราย ก่อนขยับขึ้นเป็น 53 ราย ในวันที่ 25 เม.ย. 2563 และลดลงในวันที่ 26 เม.ย.63 อยู่ที่ 15 ราย 

 

หลังจากนั้นรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19ใหม่ของไทยได้ลดลงต่ำกว่า 10 รายมาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. 2563 ศบค.รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ จำนวน 9 ราย ในวันที่ 28 เม.ย.ซึ่งเป็นวันที่ครม.ประกาศต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน ศบค.รายงานผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้มี 7 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย มียอดผู้ป่วยสะสม 2,938 ราย ใน 68 จังหวัด ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตรวมเป็น 54 ราย รักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 43 ราย รวม 2,652 ราย  

 

ต่อมาในวันที่ 29 เม.ย.มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม จำนวน 9 ราย ในวันที่ 30 เม.ย. พบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 7 คน ซึ่งเป็นการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต่ำกว่า 10 รายต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ สิ้นเดือนเมษายน 2563 มียอดสะสมผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 2,954 ราย ใน 68 จังหวัด ยอดผู้เสียชีวิตรวมอยู่ที่ 54 ราย รักษาหายกลับบ้านเพิ่ม 22 ราย รวม 2,687 ราย    
 

หลังจากนั้นตัวเลขผู้ติดเชื้อก็รักษาระดับต่ำกว่า 10 รายมาต่อเนื่อง โดยในวันที่ 1 พ.ค.2563 ศบค.รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ จำนวน 6 คน มีประวัติไปในสถานที่ชุมชน เช่น ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 1 ราย จากการลงพื้นที่ค้นหาเชิงรุกในชุมชน จังหวัดยะลา 5 คน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต  

 

เช่นเดียวกันวันที่ 2 พ.ค. 2563 มีรายงานตัวเลขติดเชื้อใหม่ 6 คน มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ 2 ราย พบจากการลงพื้นที่ค้นหาเชิงรุกในชุมชน จังหวัดภูเก็ต 2 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าสถานที่กักกันตัวของสถานที่รัฐ 2 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต กระทั่ง ถึงวันคลายล็อกตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ ในวันที่ 3 พ.ค. 2563 ศบค.แถลงพบผู้ติดเชื้อใหม่เพียง 3 ราย

 

ขณะที่วันที่ 4 พ.ค.รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวทั้งหมดจำนวน 18 ราย พบจากศูนย์กักกันตัวของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.สงขลา ขณะที่ไม่มีตัวเลขคนไทยติดเชื้อเพิ่มแต่อย่างใด

 

ต่อมา ศบค.ได้รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ในวันที่ 5 พ.ค. เพิ่ม 1 คน เป็น รวมผู้ติดเชื้อสะสม 2,988 คน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม และรักษาหายกลับบ้าน 7 คน รวมรักษาหายสะสม 2,747 คน  วันที่ 6 พ.ค. ศบค.แถลงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย  และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 3 ราย ในวันที่ 7 พ.ค.2563 รวมผู้ติดเชื้อสะสม 2,992 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต รวมผู้เสียชีวิตสะสม 55 คน รักษาหาย 11 คน รวมรักษาหายสะสม 2,772 คน

วันที่ 8 พ.ค.ตัวเลขขยับขึ้นเล็กน้อย รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 8 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้ติดเชื้อสะสม 3,000 คน รวมผู้เสียชีวิตสะสม 55 คน รักษาหาย 12 คน รวมรักษาหายสะสม 2,784 คน

 

ในวันที่ 9 พ.ค.มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ 4 ราย ตามด้วยในวันที่ 10 พ.ค. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 5 คน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,009 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตสะสม 56 คน รักษาหาย 7 คน รวมรักษาหายสะสม 2,794 คน และมีรายงานพบผู้ติดเชื้อ 6 รายในวันที่ 11 พ.ค. 2563 รวมผู้ติดเชื้อสะสม 3,015 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต รวมผู้เสียชีวิตสะสม 56 คนรักษาหาย 2 คน รวมรักษาหายสะสม 2,796 คน

 

ล่าสุดวันนี้ (12 พฤษภาคม) ศบค.รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 2 ราย มีผู้ป่วยสะสมรวม 3,017 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 56 ราย รักษาหายเพิ่ม 2 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 2,798 ราย

 

นับตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. - 12 พ.ค. 63 จะเห็นได้ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อของไทยต่ำกว่า 10 คนมาอย่างต่อเนื่อง มีเพียงวันที่ 4 พ.ค.เท่านั้นที่มีรายงานตัวเลขติดเชื้อที่ 18 คน แต่ตัวเลขดังกล่าวเป็นการติดเชื้อในกลุ่มแรงงานต่างด้าวทั้งหมดที่อยู่ในศูนย์กักกันตัวของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งสามารถควบคุมจำกัดวงได้ 

 

อีกไม่กี่วันประเทศไทยจะก้าวพ้นมาตรการผ่อนปรนในเฟสแรกกันแล้ว หากยังคงรักษาระดับตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่เอาไว้ได้เช่นนี้ต่อเนื่องต่อไป ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ เชื่อว่า รัฐบาลคงจะดำเนินการคลายล็อกในเฟส 2 และ 3 ได้ตามแผนที่วางไว้