เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (25 มี.ค.)ที่ห้องประชุมบุณยวงศ์ ชั้น 5 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดพิษณุโลก นำโดยนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผวจ.พิษณุโลก นพ.ปิยะ ศิริลักษณ์ สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก นพ.รัฐภูมิ ชามพูนท รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก นพ.สุชาติ พรเจริญพงษ์ ผอ.รพ.พุทธชินราช และนพ.อธิวัฒน์ น้อยประสิทธิ์ ผอ.รพ.พิษณุเวช จ.พิษณุโลก แถลงข่าวพบผู้ป่วยโควิด 19 รายแรกของ จ.พิษณุโลก ซึ่งผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 43 ปี
นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า จังหวัดพิษณุโลก ได้ดำเนินมาตราการป้องกันอย่างเต็มที่ แต่จากนี้มาตรการจะเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่จะช่วยได้คือความร่วมมือของภาคประชาชนจะช่วยให้ไม่เกิดการแพร่ระบาดมาก โดยอาจจะมีมาตรการล็อคดาวน์พิษณุโลก สำหรับสถานการณ์ของพิษณุโลก ตอนนี้มีผู้ป่วยสังเกตุอาการ 84 ราย ตรวจไม่พบเชื้อ 78 ราย รอผล 5 ราย พบเชื้อ 1 ราย จึงขอเน้นย้ำอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ
ด้าน นพ.สุชาติ พรเจริญพงษ์ ผอ.รพ.พุทธชินราช กล่าวว่า หลังจากโรงพยาบาลพุทธชินราชรับตัวผู้ป่วย เบื้องต้นคือการสั่งแอดมิดไปหอผู้ป่วยที่แยกห้องพิเศษ ไม่ปะปนกับผู้ป่วยทั่วไป ทีมแพทย์พยาบาลที่ดูแลใส่ชุดป้องกันอย่างเต็มที่ ในส่วนของอาการพบว่าไม่รุนแรงมากนัก ทางทีมแพทย์ได้ให้ยาต่อต้านไวรัสตามมาตรฐานของการรักษาตามอาการ และจะสั่งแอดมิดไปจนกว่าผลตรวจจะเป็นลบ
ส่วนนพ.อธิวัฒน์ น้อยประสิทธิ์ ผอ.รพ.พิษณุเวช พิษณุโลก กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยรายนี้ เป็นหญิง อายุประมาณ 43 ปี พักอาศัยใน อ.เมือง หลักจากตรวจพบเชื้อ โควิด-19 ก็ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก ในส่วนของมาตรการของทางโรงพยาบาล พิษณุเวช พิษณุโลก ตอนนี้คือได้นำกล้องวงจรปิด CCTV ที่ติดตั้งไว้มาเปิดดูว่าตั้งแต่ที่วันที่รับผู้ป่วยรายนี้เข้ามารักษา ใครที่มีโอกาสได้สัมผัสผู้ป่วยรายนี้ แล้วแยกเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำออกมา ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงก็ได้แยกออกมาทำการกักตัวตามมาตรการไว้แล้ว
น.พ.ปิยะ ศิริลักษณ์ สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางจังหวัดและสาธารณะสุข ได้ทำมาตรการป้องกันอย่างเต็มที่ คนไข้รายนี้จากการสอบสวนโรคมั่นใจว่า สาเหตุมาจากเที่ยวสถานบันเทิงในกรุงเทพมหานคร จากนั้นเวลาที่ผ่าน 5-7 วัน มีอาการได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชน แต่ขณะนั้นทางจังหวัดได้เฝ้าระวังคนจากต่างประเทศ แต่มีการรักษาอย่างระวัง จนรักษาไปพบว่าตรวจ ผลออกวันที่ 20 มีนาคม เป็นบวก ขณะนี้รักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราช เมื่อทราบผลเป็นบวกทีมสอบสวนโรคได้ลงพื้นที่ ทุกแห่งอยู่ในการรับรู้และเฝ้าระวัง สำหรับขณะนี้พบว่าผู้มีความเสี่ยงสูง 9 ราย ได้กักตัวและส่งตัวอย่างหาเชื้อ ความเสี่ยงต่ำ 32 ราย ได้กักตัวดูอาการ 14 วัน ซึ่งได้ติดตามตัวครบแล้ว