จับตาประชุม GBC จันทบุรี ไทยย้ำจุดยืน ไม่ลงนามข้อตกลงที่คลุมเครือ

24 ธ.ค. 2568 | 06:19 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ธ.ค. 2568 | 06:25 น.

จับตาการประชุม GBC นัดพิเศษ เริ่มเย็นวันนี้ที่จันทบุรี ไทยยันจุดยืน “หยุดยิง-กู้ระเบิด” ทุบโต๊ะไม่ย้ายที่ประชุมไปมาเลเซีย ชี้กัมพูชาทำผิดกฎสากล 5 ข้อ ลั่นหากยังบ่ายเบี่ยงพร้อมดึงอาเซียนร่วมประณาม

KEY

POINTS

  • ไทยเป็นเจ้าภาพประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อหาทางออกวิกฤตความขัดแย้งชายแดน
  • ฝ่ายไทยยื่น 3 เงื่อนไขหลักให้กัมพูชา คือ ต้องประกาศหยุดยิงจริงโดยมีผู้สังเกตการณ์ และต้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด
  • ไทยยืนยันจะไม่ลงนามในข้อตกลงที่คลุมเครือ และพร้อมชี้ให้เห็นพฤติกรรมของกัมพูชาที่ละเมิดกติกาสากล เช่น การใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์
  • ไทยปฏิเสธข้อเสนอของกัมพูชาที่ต้องการย้ายสถานที่ประชุมไปมาเลเซีย เพื่อรักษากลไกความร่วมมือแบบทวิภาคี

จับตาในช่วงเย็นวันนี้ (24 ธันวาคม 2568) จะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee - GBC) ระหว่างไทยและกัมพูชาได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ ด่านถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี โดยมีกำหนดการประชุมต่อเนื่องระหว่างวันที่ 24-27 ธันวาคม 2568 เพื่อหาทางออกวิกฤตความขัดแย้งและการสู้รบในพื้นที่ชายแดน 7 จังหวัด

ไทม์ไลน์การเจรจา 4 วันรวด การประชุมแบ่งออกเป็น 2 ช่วงสำคัญ คือในวันที่ 24-26 ธันวาคม จะเป็นการประชุมในระดับเลขานุการ

โดยฝ่ายไทยนำโดย พลเอกณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร เพื่อจัดทำร่างข้อเสนอเชิงเทคนิค จากนั้นในวันที่ 27 ธันวาคม จะเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศ เพื่อลงนามในแถลงการณ์ร่วมและสรุปผลการหารือ

ไทยยันจุดยืน 3 ข้อ พร้อมแฉ 5 พฤติกรรมละเมิดกติกาสากล

ในการประชุมครั้งนี้ ฝ่ายไทยได้ยื่นเงื่อนไขหลัก 3 ประการต่อกัมพูชา ได้แก่ 1. ต้องประกาศหยุดยิงก่อน 2. การหยุดยิงต้องเกิดขึ้นจริงและต่อเนื่องโดยมีผู้สังเกตการณ์ และ 3. ต้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างจริงจัง

นอกจากนี้ ไทยยังเตรียมชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของกัมพูชาที่ละเมิดกติกาสากลใน 5 ประเด็นสำคัญ เช่น การใช้ทุ่นระเบิดใหม่, การใช้โบราณสถานเป็นที่มั่นทหาร และการใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์

ทุบโต๊ะไม่ย้ายที่ประชุม – ลั่นไม่ลงนามหากข้อตกลงคลุมเครือ

ก่อนหน้านี้ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามเสนอขอเปลี่ยนสถานที่ประชุมไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่รัฐบาลไทยได้ปฏิเสธและยืนยันจัดที่จังหวัดจันทบุรีเพื่อรักษากลไกความร่วมมือแบบทวิภาคี

ทั้งนี้ ฝ่ายไทยย้ำชัดว่า จะไม่ลงนามในข้อตกลงใด ๆ ที่มีความคลุมเครือ หากฝ่ายเลขานุการไม่สามารถตกลงรายละเอียดเชิงเทคนิคเรื่องการวางกำลังและการหยุดยิงได้ การประชุมระดับรัฐมนตรีในวันที่ 27 ธันวาคมอาจไม่เกิดขึ้น

ความหวังบนความจริงใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ระบุว่ากัมพูชาควรแสดงความเสียใจและคำขอโทษต่อเหตุการณ์ที่ผ่านมา ขณะที่โฆษกกระทรวงกลาโหมย้ำว่า หากกัมพูชายังคงบ่ายเบี่ยงการเก็บกู้ทุ่นระเบิดโดยอ้างเรื่องการปักปันเขตแดน ไทยพร้อมจะให้คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) เข้ามาตรวจสอบและร่วมประณาม เนื่องจากการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลถือเป็นอันตรายร้ายแรงต่อพลเรือน

การประชุม GBC ครั้งนี้จึงเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่าสถานการณ์ชายแดนจะคลี่คลายลงหรือจะทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ "ความจริงใจ" ของกัมพูชาในการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้