ปิดทองฯ มุ่งเป้ายกระดับ เกษตรพรีเมียมสู้วิกฤติ

14 มี.ค. 2563 | 11:25 น.

สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราช ดำริ ประกาศแผนงาน 5 ปี ยังมุ่งมั่นน้อมนำพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ส่งเสริมเกษตรกรช่วยเหลือ
ตัวเองฝ่าวิกฤติ สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ ยกระดับสู่เกษตรกรพรีเมียม ซึ่ง 10 ปีที่ผ่านมา ผลงานมีความครอบคลุมทั้งด้านรายได้ ตลอดจนการพัฒนาคน และทรัพยากรธรรมชาติที่นำไปสู่ความยั่งยืน

“ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล” ประธานสถาบันฯปิดทองหลังพระฯ กล่าวว่า ได้ร่วมหารือกับคณะกรรมการมูลนิธิ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงแผนดำเนินงาน 5 ปี (พ.ศ. 2564-2568) พร้อมกำหนดตัวชี้วัด ชุมชนพื้นที่ต้นแบบเดิม จากการอยู่รอด สู่ความพอเพียงและยั่งยืนตามพระราชดำริโดยยังคงร่วมทำงานกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ สร้างคน เพื่อการส่งต่อความรู้ เป้าหมายในอีก 5 ปีต่อจากนี้ คือ การสร้างครัวเรือนประยุกต์ทฤษฎีใหม่ 6,433 ครัวเรือน สร้างรายได้ภาคการเกษตร 1.2 แสนบาท/ครัวเรือน/ปี รายได้ทางการเกษตร 3,088 ล้านบาท

ปิดทองฯ มุ่งเป้ายกระดับ เกษตรพรีเมียมสู้วิกฤติ

 

พื้นที่ชายแดนใต้ เกิดครูภูมิปัญญาเกษตร 200 คนและรายได้ทางเกษตร 1,800 ล้านบาท ส่วนพื้นที่ชายแดนเหนือ จะร่วมพัฒนาโครงการกับท้องถิ่น 280 หมู่บ้าน เกิดการพัฒนาแหล่งนํ้าและสร้างฝาย 6,259 แห่ง ส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน ทำให้เกิดรายได้จากการเกษตรทั้งในพื้นที่ต้นแบบและขยายผล รวม 2,956 ล้านบาท ประชาชนเข้าร่วมพัฒนาตามแนวพระราชดำริในพื้นที่ต้นแบบและขยายผลรวม 75,841 ครัวเรือน

“การทำงานทุกกลุ่มเริ่มจากการศึกษาปัญหา ความต้องการของชาวบ้าน ไม่ใช่เราคิดอะไรแล้วบังคับให้เขาทำ เราศึกษาปัญหาและความต้องการของชาวบ้านก่อน และหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับชุมชน โดยการดึงเอาความร่วมมือจากชุมชน ข้าราชการและเอกชนมาร่วมบูรณาการกัน”

ปิดทองฯ มุ่งเป้ายกระดับ เกษตรพรีเมียมสู้วิกฤติ

แผนในปีนี้ คือ การรับมือภัยแล้ง ที่จะสร้างพื้นที่นำร่องจังหวัดอุดรธานี พัฒนาอาชีพเกษตรสมัยใหม่ที่ใช้นํ้าน้อยโดยนำองค์ความรู้ ทั้งจากภาคราชการและภาคเอกชน อาทิซีพี เบทาโกร เทสโก้ โลตัส โดยอุดรธานีจะเป็นตัวอย่างแรกของปิดทองฯ ด้วยความขยันและ ซื่อสัตย์ ที่ทำให้พวกเขาอยู่รอด อยู่พอเพียงอย่างยั่งยืน คาดว่าโครงการนี้จะคืนทุนได้ภายใน 3 ปี

ตอนนี้ทุกคนคงกำลังหนักใจในบรรยากาศของประเทศและของโลก จึงขอยกพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2532 เป็นสิ่งเตือนใจว่าเราทุกคนมีส่วนร่วมกัน ในการทำให้สังคมและประเทศดีขึ้นได้ แต่เราต้องอย่าท้อ... พระองค์ทรงตรัสว่า “...บางเรื่องมันน่าท้อถอย..แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้าน คือเมือง..คือความสุขของคนไทยทั้งประเทศ” ม.ร.ว.ดิศนัดดา กล่าว

หน้า 27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40  ฉบับที่ 3,556 วันที่ 12 - 14 มีนาคม พ.ศ. 2563

ปิดทองฯ มุ่งเป้ายกระดับ เกษตรพรีเมียมสู้วิกฤติ