บริษัท เงินติดล้อฯ ในฐานะบริษัทในเครือธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุมชน และให้การสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวกับการพัฒนาชุมชน และหนึ่งในโครงการที่ให้การสนับสนุน คือ “โครงการกำลังใจ ในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา” ซึ่งมีแนวคิดที่สอดคล้องกับการทำงานของเงินติดล้อ “พุฒิพงศ์ ภักดีพิพัฒน์กุล” ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารสาขาและพัฒนาศักยภาพผู้นำฝ่ายขาย บริษัท เงินติดล้อ จำกัด บอกว่านี่คือเหตุผลที่เงินติดล้อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการให้ความรู้ด้านการเงินกับสนับสนุนสินเชื่อสำหรับผู้ก้าวพลาดที่พ้นโทษจากเรือนจำ
ปรัชญาของโครงการนี้ คือ ความต้องการช่วยเหลือผู้ก้าวพลาด ให้ดำรงชีวิตต่อในสังคมได้ เงินติดล้อได้เข้ามาศึกษาว่า ปัญหาของผู้ก้าวพลาดเหล่านี้คืออะไร จนพบว่า นั่นคือเรื่องบริหารจัดการทางการเงิน เพื่อการลงทุน
ในตอนอยู่เรือนจำ บรรดาผู้ก้าวพลาดจะได้ความรู้เกี่ยวกับวิชาชีพ และสามารถผลิตสินค้าออกมาหลากหลายทั้ง สินค้าหัตถกรรม และสินค้าเกษตร ซึ่งทางเรือนจำทำหน้าที่ดูแลต้นทุน บริหารการผลิต จนไปถึงการตลาด ตามที่ “ภวัต พลวัฒน์” หัวหน้าเรือนจำชั่วคราวดอยฮาง จังหวัดเชียงราย บอกว่า เรือนจำจะส่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงผลิตผลทางเกษตร ซึ่งบรรดาผู้ก้าวพลาดช่วยกันผลิตไปขาย ผู้ก้าวพลาดจะได้เงินปันผล 50% จากยอดขาย เป็นรายได้เฉลี่ยต่อคนกว่า 600-1,000 บาท หรือบางคนได้สูงถึง กว่า 2,000 บาท จากการถูกส่งไปทำงานข้างนอก โดยเจ้าหน้าที่จะฝากบัญชีไว้ให้ ใครที่ต้องการใช้หรือให้ครอบครัวก็สามารถเบิกถอนได้ ทางเรือนจำเป็นผู้ดูแลทุกอย่างให้หมด เพราะฉะนั้น เมื่อออกไปสู่โลกภายนอก หลายคนจึงต้องการความรู้เพิ่มเติม
เงินติดล้อจึงเข้าร่วมสนับสนุนโครงการกำลังใจฯ ใน 3 ส่วน ได้แก่ การให้ความรู้ทางการเงิน เพื่อประกอบอาชีพ, การให้สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพ และการสนับสนุนผลิตภัณฑ์งานฝีมือจากผู้ก้าวพลาด สำหรับความรู้ทางการเงิน เงินติดล้อได้จัดหลักสูตรให้ความรู้การบริหารต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปร การมองหาทำเลที่ตั้งร้าน และการบริหารการตลาด มาถ่ายทอดให้กับผู้ก้าวพลาด ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาเป็นสมาชิกโครงการกำลังใจฯ ตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ได้ให้ความรู้ไปแล้ว 185 คน และล่าสุดที่เรือนจำชั่วคราวดอยฮางอีก 100 คน
ส่วนการให้สินเชื่อ สำหรับผู้ก้าวพลาดในโครงการกำลังใจฯ ที่พ้นโทษไปแล้วอยากประกอบอาชีพ สามารถนำเสนอแผนงานมาได้ที่เงินติดล้อ ซึ่งขณะนี้สนับสนุนไปแล้ว 4-5 ราย วงเงินสูงสุด 7 หมื่นบาท ต่ำสุดอยู่ที่ 2.5 หมื่นบาท ผ่อนชำระ 24 งวด อัตราดอกเบี้ย 1.32% ต่อเดือน
“การสนับสนุนเงินทุน เราไม่ได้ให้เปล่า รูปแบบที่เรามองคือ อยากให้พวกเขาสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน มีความรับผิดชอบ เพราะหากให้เปล่า ก็เหมือนกับบริจาค โดยไม่ได้สอนให้เขาทำมาหากินอย่างจริงจัง รับผิดชอบ เงินที่สนับสนุน เมื่อได้รับคืนมา ก็จะหมนุเวียนวนกลับมาที่ผู้ก้าวพลาดคนอื่นๆ ต่อไป”
นอกจากนี้ เงินติดล้อยังสานต่อความยั่งยืน ด้วยการสร้างเทรนเดอะเทรนเนอร์ ให้กับเจ้าหน้าที่เรือนจำและกรมคุมประพฤติ เข้ามาเรียนรู้เรื่องหลักคิด วิธีคิด และจัดกิจกรรม ซึ่งเริ่มทดลองทำไปแล้วปลายปี 2562 ที่เรือนจำแคน้อย เพชรบูรณ์ โดยเป้าหมายจะขยายไปอีก 4 แห่ง จากจำนวนผู้ผ่านการอบรมแล้ว 89 คน และครึ่งปีหลังของปีนี้ คนจากเทรนเดอะเทรนเนอร์จะทำหน้าที่เป็นผู้นำ ส่วนเงินติดล้อเป็นผู้ซัพพอร์ต เป็นที่ปรึกษา