"มานะ" สงสัยปมไฮสปีด "พ่อค้าเกเร หรือ เล่ห์นักการเมือง"

15 ต.ค. 2562 | 03:48 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

วันนี้ (15 ต.ค.62) ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุก "มานะ นิิมิตรมงคล" ถึงปัญหาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน โดยตั้งชื่อเรื่องว่า "พ่อค้าเกเร หรือ เล่ห์การเมือง" 

ดร.มานะ ระบุว่า เพื่อนนักข่าวถามมาว่า.. คิดอย่างไรกรณีรัฐมนตรีประกาศจะตัดสิทธิ์และขึ้นแบล็คลิสต์ กลุ่มบริษัท CPH หากไม่มาลงนามสัญญาก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินภายในกำหนด

"มานะ" สงสัยปมไฮสปีด "พ่อค้าเกเร หรือ เล่ห์นักการเมือง"

เรื่องนี้มีหลายเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดา ..

1. คำขู่ขึ้น ‘แบล็คลิสต์’ ถ้าหมายถึงขึ้นบัญชีผู้ทิ้งงานตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ คงทำไม่ได้ เพราะโครงการนี้เป็นการประมูลตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนรัฐ – เอกชน หรือ พีพีพี ซึ่งไม่ได้กำหนดมาตรการ ‘แบล๊คลิสต์’ และ ‘การจัดเกรด’ ผู้เข้าประมูลไว้ คงต้องรอให้เขียนเพิ่มเติมในกฎหมายลูกต่อไป

ครั้นจะใช้คำสั่งกระทรวงหรือรัฐมนตรีหรือแม้แต่ มติ ครม. ก็ไม่แน่ใจว่าเอาอำนาจหรือกฎหมายอะไรมารองรับ 

ขออธิบายเพื่อความเข้าใจว่า แบล็คลิสต์หรือบัญชีผู้ทิ้งงาน เป็นมาตรการลงโทษพ่อค้าเกเร ที่มาประมูลงานรัฐแล้วไม่ทำ ทำไม่ได้ ไม่ทำตามสัญญาหรือฉ้อโกง พูดง่ายๆ คือเอาเปรียบและทิ้งให้ราชการต้องเสียหาย 

2. พ่อค้ายื่นเงื่อนไขเจรจาเพิ่มเติมตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา

รู้กันดีว่าพ่อค้าทุกรายสมัครใจเข้าแข่งกันเพื่อให้ตนเป็นผู้ชนะการประมูล  ยิ่งโครงการใหญ่มูลค่ากว่าสองแสนล้านบาทแน่นอนว่าเขาต้องศึกษาวางแผนมาอย่างดีเพื่อความมั่นใจและสร้างกำไรมากที่สุด

ฝ่ายรัฐเองก็จำเป็นต้องกำหนดเงื่อนไขหรือกติกาการประมูลอย่างชัดเจนรอบคอบและวิเคราะห์ความเสี่ยงไว้ด้วยตามที่ปรากฏในทีโออาร์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาดหรือถูกใครมาเอาเปรียบได้ง่ายๆ เหมือนกรณีโฮปเวลล์ 

การแก้เงื่อนไขในสัญญาโครงการให้ต่างไปจากทีโออาร์ จะทำได้เท่าที่เป็นประโยชน์ต่อโครงการ ไม่ก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการประมูลที่ผ่านมาและไม่ทำให้ราชการเสียหาย (แต่หลายโครงการที่ผ่านมาเห็นช่วยกันแก้ รวมหัวกันโกงเยอะแยะไม่เห็นใครต้องรับผิดชอบหรือโดนลงโทษ)

"มานะ" สงสัยปมไฮสปีด "พ่อค้าเกเร หรือ เล่ห์นักการเมือง"

 

ส่วนคำขู่ของรัฐมนตรีและการเลื่อนกำหนดเซ็นสัญญาจากเดิมวันที่ 15 ตุลาคมเป็น 25 ตุลาคม ด้วยเหตุผลแปลกๆ เป็นเพราะอะไร เรื่องนี้คนวงในเท่านั้นที่รู้ แต่ฝ่ายรัฐต้องรีบดำเนินการก่อนกำหนดยืนราคาของเอกชนจะครบกำหนดเป็นเหตุผลที่ถูกต้อง 

‘นักการเมืองกลุ่มนี้มีผลประโยชน์แอบแฝงเพราะจะกลับเป็นผู้ได้ประโยชน์ทันทีหากกันกลุ่ม CPH ออกไปได้’ และ ‘พวกเจ้าสัวมีการเจรจาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์อย่างลับๆ แล้วจริงหรือไม่’ สองข้อนี้ไม่ขอวิจารณ์

ปรากฎการณ์เหล่านี้ชวนให้คิดว่า เกิดขึ้นเพราะ ‘พ่อค้าเกเรหรือเล่ห์การเมือง’ กันแน่ 

เอาเป็นว่าท่านรัฐมนตรีทำทุกอย่างให้โปร่งใส เมื่อถึงกำหนดแล้ว CPH ไม่มาเซ็นสัญญาก็เรียกผู้ประมูลรายที่สองมาเจรจา งานจะได้เดิน แล้วยึดเงินมัดจำและเรียกค่าเสียหายไปตามเงื่อนไข ส่วนการลงโทษพ่อค้าเกเรตามกฎหมาย ถ้าทำได้ก็ดี แต่เชื่อเถอะว่า งานนี้สังคมจะตัดสินและตราหน้าเอง