เข้าช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง การเมืองไทยก็ยิ่งร้อนแรงและขัดแย้งอย่างไม่เคยเปลี่ยนนะเจ้าคะ
ดูเหมือนความแตกแยกทางทรรศนะการเมืองจะอยู่ในยีนและพันธุกรรมทางความคิดของคนไทยไปเสียแล้ว
คู่กรณีก็จะถูกทำให้ดูเหมือนมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายไป 2 ข้างคือ “ฝั่งประชาธิปไตย” กับ “ฝั่งเผด็จการ”
แต่แล้วใครล่ะคือ “พรรคเผด็จการ” หรือ “พรรคสืบทอดอำนาจ” ในเมื่อการเลือกตั้ง 2562 รอบนี้ ประชาชนคือคนที่มีสิทธิมีเสียงเองในการตัดสินใจ
รักใคร ศรัทธาใคร ชอบนโยบายใคร ก็เลือกลงคะแนนตามนั้น... ส่วนในมุมการลงทุนในตลาดหุ้น แน่นอนนะเจ้าคะ กลุ่มทุนไหน บริษัทใดที่เกี่ยวเนื่องกับพรรคไหน ขั้วไหน ก็คงไม่น่าแคล้วได้ประโยชน์ตามข้างผู้ชนะ
เรื่องนี้สำหรับนักลงทุน ก็ไม่แคล้วเหมือนการแทงหวยข้างผู้มีแนวโน้มจัดตั้งรัฐบาล แทงถูก หุ้นบริษัทนั้นๆ ก็น่าจะขึ้น แทงผิดก็ชีช้ำกะหล่ำปลีไป
แต่มีพรรคหนึ่งนะเจ้าคะ ที่ถ้าหากไม่พลาดสะดุดเชือกรองเท้าตัวเองล้มก่อน ก็คงได้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลแน่ๆ นั้นคือ “พรรคภูมิใจไทย” ของ “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” เพราะคณิตศาสตร์ทางการเมืองรอบนี้ “พรรคภูมิใจไทย” จะดูเหมือนเป็น “พรรคตัวแปร” ที่ชี้ขาดผู้ชนะในการจัดตั้งรัฐบาล
ดังนั้น แทง “ภูมิใจไทย” จึงเปรียบได้ดั่ง “การซื้อหวยล็อก”
แล้วกลุ่มทุนไหนบ้างล่ะที่ใกล้ชิดและน่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายของ “ภูมิใจไทย”
บริษัทแรกที่ต้องนึกถึง แน่นอนต้องเป็น “บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น” หรือ “STEC” ที่มีผู้ถือหุ้นและอดีตผู้บริหารชื่อ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ดังนั้นในหมวดรับเหมาก่อสร้าง คงไม่มีใครเกินหน้าเกินตา “ซิโน-ไทย” ไปได้
ส่วนในกลุ่มพลังงาน หวยคงออกที่ “บมจ. ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่” หรือ “WP” ไม่หนีไปไหน... เพราะมีชื่อทั้ง “กนกศักดิ์ ปิ่นแสง-ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง-วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์” และ “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” เจ้าของอาณาจักรคิงเพาเวอร์ เป็นผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่
อีกกลุ่มที่น่าจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง หลังจากขาดทุนมา 2 ปีติด คือ “กลุ่มสามารถ” ของตระกูล “วิไลลักษณ์” ในหมวดเทคโนโลยีและสื่อสาร ที่ปกติมักจะได้รับงานจากภาครัฐเป็นส่วนใหญ่
[caption id="attachment_390894" align="aligncenter" width="500"]
[/caption]
สุดท้ายนี้ หากหันมามองหุ้นในกลุ่มโฆษณา คงไม่มีใครจะต่อยอดธุรกิจได้ไกลกว่าและใกล้ชิดไปกว่า “PLAN B” ของ “บี-ปรินทร์ โลจนะโกสินทร์” แล้ว เพราะทั้งวิสัยทัศน์และคอนเนกชั่นการเมืองคงไม่มีใครเกินผู้บริหารหนุ่มไฟแรงท่านนี้
ทั้งหมดนี้คือกลุ่มทุนที่ใกล้ชิดกับ “เนวิน ชิดชอบ” และ “พรรคภูมิใจไทย” ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลที่มีกระทรวงใหญ่ในมือแน่นอน
หากต้องการลงทุนโดยใช้การเก็งอนาคตมาเป็นน้ำหนักในการเลือกหุ้น... หุ้นกลุ่มนี้คือ “เบญจภาคี” อย่างแท้จริงนะเจ้าคะ ทราบแล้วเปลี่ยน!!
ปล. อย่าลืมหาหุ้น IPO ของ “สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์” ด้วยล่ะเจ้าค่ะ!!
| คอลัมน์ : มารยาตลาดหุ้น
| โดย : คุณนายเผือก
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3446 หน้า 17 ระหว่างวันที่ 21-23 ก.พ.2562