'หลิว จงอี้' ถกกองทัพบก ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไซเบอร์สแกม

18 ธ.ค. 2568 | 07:03 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ธ.ค. 2568 | 07:13 น.

'หลิว จงอี้' ร่วมหารือกองทัพบก ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไซเบอร์สแกม จีนเผยรัฐบาลกัมพูชามีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ

KEY

POINTS

  • ผู้ช่วยรัฐมนตรีความมั่นคงสาธารณะจีน (นายหลิว จงอี้) ประชุมร่วมกับผู้แทนกองทัพบกไทย เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งไซเบอร์สแกมและอาชญากรรมข้ามชาติ
  • ฝ่ายไทยแสดงความกังวลว่ากลุ่มสแกมเมอร์อาจใช้ไทยเป็นเส้นทางผ่านไปยังประเทศที่สาม และขอให้จีนสนับสนุนข้อมูลข่าวสารเพื่อช่วยในการสกัดกั้น
  • ฝ่ายจีนขอให้ไทยเพิ่มมาตรการสกัดกั้นผู้กระทำผิดตามแนวชายแดนและด่านตรวจคนเข้าเมือง พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของการเก็บรวบรวมวัตถุพยานเพื่อขยายผล
  • จีนระบุว่ารัฐบาลกัมพูชามีความเชื่อมโยงกับขบวนการสแกมเมอร์ และเรียกร้องให้ไทยและจีนร่วมมือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 เพจกองทัพบก ได้เผยแพร่ภาพ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 พลเอก ดิเรก บงการ หัวหน้าศูนย์ประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ให้การต้อนรับนายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน (Ministry of Public Security - MPS) พร้อมด้วยคณะผู้แทนจากกรมสอบสวนคดีอาญา กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กองสอบสวนอาชญากรรมโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต กระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน และจากสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ณ ห้อง จปร. อาคารพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อหารือประเด็นสถานการณ์ความมั่นคงและการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

ซึ่งในระหว่างการหารือ พลเอก ดิเรก บงการ กล่าวว่าปัจจุบันมีข้อมูลว่ากลุ่มสแกมเมอร์ที่ถูกปราบปรามอาจหลบหนีไปยังพื้นที่อื่น และอาจใช้ไทยเป็นเส้นทางผ่านไปยังประเทศที่สาม โดยใช้การแฝงตัวเข้ามาในลักษณะนักท่องเที่ยวหรือนักลงทุน ส่งผลให้การคัดกรองของเจ้าหน้าที่เป็นไปได้ยาก รวมถึงการดำเนินการของกองทัพบกที่รับผิดชอบดูแลความมั่นคงตามแนวชายแดน ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการคัดกรองและระบุตัวผู้ต้องสงสัยร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนข้อมูลข่าวสารหรือเบาะแสของขบวนการสแกมเมอร์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ก็จะสามารถแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องล่วงหน้า และทำให้การสกัดจับเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ พลเอก ดิเรก ยังกล่าวถึงขั้นตอนการส่งมอบผู้ลักลอบเข้าเมืองให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขั้นตอนการผลักดันออกนอกประเทศ ที่ทางกองทัพบกมีความเห็นว่า หากสามารถกำหนดแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน ก็จะสามารถลดเวลาในขั้นตอนเหล่านี้ได้

หลิว จงอี้ ถกกองทัพบก ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไซเบอร์สแกม

หลิว จงอี้ ถกกองทัพบก ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไซเบอร์สแกม

ทางด้านนายหลิว จงอี้ ได้แสดงความชื่นชมต่อความร่วมมือระหว่างไทย เมียนมา และจีน ในการกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรมในพื้นที่เมียวดี ซึ่งสามารถจับกุมและส่งกลับผู้ต้องหาชาวจีนกว่า 6,600 คน พร้อมกล่าวว่าปัจจุบันรัฐบาลเมียนมาได้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจในการแก้ไขปัญหา และมีการลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการตรวจอาคารใน KK Park กว่า 400 แห่งแล้ว

ทั้งนี้ ฝ่ายจีนได้ขอความร่วมมือให้ไทยเพิ่มมาตรการสกัดกั้นผู้กระทำผิด ที่พยายามใช้ไทยเป็นเส้นทางผ่าน ทั้งทางธรรมชาติและด่านตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งกล่าวว่าอุปกรณ์ที่ขบวนการสแกมเมอร์ใช้ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง คือหลักฐานสำคัญที่จะใช้ในการดำเนินคดีและขยายผลเครือข่ายอาชญากรรม จึงต้องมีการดำเนินการเก็บวัตถุพยานอย่างรอบคอบและรัดกุม ซึ่งวิธีดังกล่าวเป็นวิธีที่ทางการจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินการที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ทางจีนได้แสดงความเห็นอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลกัมพูชามีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ ดังนั้นจึงขอให้ทั้งสองประเทศได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกัน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาและมาตรการที่เป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง ในการดำเนินการ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและเสถียรภาพในภูมิภาค.