นี่คืองานที่ท้าทายของพรรคการเมืองในช่วงเวลาที่เหลือ ถ้ารู้และเข้าใจก็จะมีโอกาสได้คะแนนจากคนเหล่านี้ ที่สำคัญต้องเข้าถึงด้วยช่องทางที่ถูกต้องด้วย คนรุ่นใหม่ที่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งเป็นครั้งแรกจะอยู่ในคนรุ่น Gen Z(คือเกิดปี2540ขึ้นไป ) เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการใช้สื่อออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียน่าจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของคนกลุ่มนี้
แต่ก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า เมื่อนักการเมืองรุ่นGen-B (คนที่เกิดปี 2489- 2507) หรือนักการเมืองรุ่นGen X (เกิดปี 2508-2522) ขึ้นเวทีปราศรัย คนรุ่น Gen Z จะมองว่าคนพวกนี้พูดเยอะ เยิ่นเย้อ วาดวิมานบนก้อนเมฆสารพัดนโยบาย ขณะที่คนรุ่น Gen Z จะชอบสิ่งที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา
แน่นอนว่าวิธีการหาเสียงหรือการสื่อสารก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย เพราะวิธีการแบบเดิมจะไม่ประสบผลสำเร็จ เช่น ใช้วิธีหาเสียงแบบป้ายสีสาดโคลน การติดโปสเตอร์ การขึ้นเวทีปราศรัย อาจเข้าไม่ถึงคนรุ่น Gen Z
ผู้เขียนฟันธงไว้ ณ ตรงนี้เลยว่า พรรคที่ทำการเมืองแบบเก่าจะไม่ได้คะแนนเสียงจากคนกลุ่มนี้เลย แต่ถึงแม้จะรู้ว่าคนรุ่น Gen Z ชื่นชอบช่องทางโซเชียลมีเดีย แต่ถ้าข้อความหรือสารที่ส่งออกไปไม่โดนใจ ก็จะเข้าไม่ถึงเช่นกัน
อย่าลืมว่า วิถีชีวิตของคนรุ่น Gen Z เติบโตขึ้นมาท่ามกลางข้อมูลข่าวสารเป็นจำนวนมาก จึงมีทักษะในการคัดกรองข้อมูลให้เข้ากับจริตของตนเอง ดังนั้นสิ่งที่ไม่จำเป็นหรือไม่ถูกจริตก็จะปล่อยผ่านไป
แล้วในแง่ของวิถีชีวิต รสนิยมและแนวคิดของคนกลุ่มนี้เป็นอย่างไร คือในขณะที่ Gen Y Gen Z เติบโตมาท่ามกลางข้อมูลข่าวสารท่วมท้นโลกออนไลน์ คนรุ่นใหม่ที่สนใจใคร่รู้ ก็เก่งกาจกว้างไกลกว่าคนรุ่นเก่าหลายร้อยพันเท่า