เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสพาลูก ๆ ไปดูหนังเรื่อง
"น้อง.พี่.ที่รัก" หรือ "Brother of the Year 2018" หนังที่ไม่ได้มุ่งหวังจะไปดูในโรง แต่เพราะหลาน ๆ วัยประถมปลาย-มัธยมต้น บอกน่าดูน่าสนุก ลูกผมวัย 7 ขวบ (เด็กหญิงพอใจ) และ 9 ขวบ (เด็กชายพอเพียง) จึงรบเร้าให้ผมพาไป
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่ภรรยาไม่อยู่ เมื่อลูก ๆ ตั้งใจเรียนพิเศษตามที่ตกลง จะมีหรือที่พ่อจะปฏิเสธลูกได้ลงคอ
ผลลัพธ์แห่ง "ความบังเอิญ" คือ "สิ่งเกินคาดหมาย" จากหนังเรื่องนี้
ขออนุญาตออกตัวไว้ก่อนว่า ไม่ใช่นักรีวิวหนังมืออาชีพ จึงพยายามจะถ่ายทอดความรู้สึกและความประทับใจแบบไม่ Spoil เนื้อหาของเรื่อง
หนังเรื่องนี้ ได้องค์ประกอบนักแสดงนำที่ถือว่าระดับ Super Star ของเมืองไทยมาร่วมถึง 3 คนทีเดียว คือ 'ซันนี่' สุวรรณเมธานนท์ (ในบท "ชัช" พี่ชายไร้ระเบียบที่หวงน้องสาว) 'ญาญ่า' อุรัสยา เสปอร์บันด์ (ในบท "เจน" น้องสาวสุดเพอร์เฟกต์ที่ทำตัวเหมือนแม่) และดาราขวัญใจติ่งเกาหลีไทย 'คุณ' นิชคุณ หรเวชกุล (ในบท "โมจิ" หนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นแสนดี)
ผนวกกับผู้กำกับ "คุณบอล" วิทยา ทองอยู่ยง ที่ผ่านผลงานกำกับมากมาย เช่น "แฟนฉัน" (2546-กำกับร่วม) และ "บ้านฉัน...ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้)" (2553)
หากท่านใดคร่ำหวอดในวงการหนังและบันเทิงสักหน่อยจะทราบดีว่า การสร้างหนังเกี่ยวกับพี่น้อง ถือเป็น "
ความเสี่ยงสู" ที่จะไม่ประสบความสำเร็จในเชิงรายได้ แต่ด้วยองค์ประกอบที่ลงตัวและความสามารถของทั้งผู้ผลิต ผู้กำกับ ผู้เขียนบทและนักแสดง กลับล้างอาถรรพ์ทำรายได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ
โดยวันแรกของการเข้าฉายอย่างเป็นทางการ (10 พฤษภาคม 2561) "น้อง.พี่.ที่รัก" เปิดตัวด้วยรายได้ 13.30 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์ของค่าย "GDH" ที่เปิดตัวสูงสุด หลังจากผ่านวันหยุดสุดสัปดาห์แรกของการเข้าฉาย (4 วันหลังจากการเข้าฉาย) ทำรายได้รวม 66.76 ล้านบาท
สำหรับผม หนังพี่น้องเรื่องนี้ อาจจะเข้าถึงยากไปสักหน่อยสำหรับเด็ก 7 ขวบ และเรื่องราวความรักหนุ่มสาว แต่ด้วยเนื้อหาหลักที่เกี่ยวกับ "
สายใยความรักที่ไม่มีทางตัดขาด" และ
"ความห่วงหาอาทร" ระหว่างพี่น้อง ส่งสัมผัสอารมณ์ให้ลูก ๆ ของผมแอบร้องไห้ ถึงขั้นต้องย้ายไปนั่งเก้าอี้ตัวเดียวกันเลยทีเดียว หลังออกจากโรง นอกจากคำโม้ที่เด็กหญิงพอใจจะพูดตลอดทางกลับบ้านว่า เธอรู้จัก 'พี่ญาญ่า' ตอนเรียนปีนเขา... ความแตกต่างที่เห็นได้คือ ทั้งคู่รักกันมาก กอดกันกลมทั้งระหว่างกลับและเมื่อเข้านอน
ถามว่าคุ้มมั้ย สำหรับหนังเรื่องนี้... ผมว่ามันขึ้นอยู่กับคุณ (ผู้ปกครอง) ที่จะให้มูลค่าของความสุขเมื่อได้เห็นบุตรหลานซึมซับความอบอุ่นจากสายใยรักและสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างพี่น้อง
สำหรับ ค่ายหนัง "GDH" หรือ "Gross Domestic Happiness" ที่หมายถึงหน่วยวัดความสุขของผู้ชม...คงไม่มีสิ่งอื่นนอกจากคำชื่นชมในผลงานอีกครั้งหนึ่ง และขอบคุณที่มอบความสุขให้สังคมไทยอีกครั้ง
.....................
คอลัมน์:ฉาย บุนนาค | โดย...ฉาย บุนนาค | หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3366 ระหว่างวันที่ 17-19 พ.ค.2561 |