สรุปสาระประชุม EEC! เพิ่มเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายอีก 19 แห่ง รองรับลงทุน 1.1 ล้านล้านบาท

02 ก.พ. 2561 | 02:14 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.พ. 2561 | 10:45 น.
1041

จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กนศ.) โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2561 สรุปสาระสำคัญการประชุม ดังนี้

ความก้าวหน้าการดำเนินงาน
1.1 ร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. ... : คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ. เสร็จแล้วทุกมาตรา เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 61 และคาดว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติจะพิจารณาแล้วเสร็จ ภายใน ก.พ. 61

1.2 การลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ EEC : การขอรับการส่งเสริมการลงทุนใน EEC ในปี 2560 รวมเป็นเงินลงทุน 296,890 ล้านบาท โดยปี 2561 มีเป้าหมายการลงทุน 300,000 ล้านบาท (เทียบกับ 199,327 ล้านบาท ในปี 2559) โดยร้อยละ 84 เป็นการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีสูง คิดเป็น 84% ของอุตสาหกรรมทั้งหมด


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

นอกจากนั้น คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ EEC เพิ่มเติม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 61 เป็นต้นไป ได้แก่

1.2.1 เขตส่งเสริมเพื่อกิจการพิเศษ เช่น เมืองการบินภาคตะวันออก ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมในการยกเว้นภาษีนิติบุคคล เพิ่มอีก 2 ปี รวมแล้ว 8 ปี และลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 50% เพิ่มอีก 5 ปี โดยมีเงื่อนไขต้องฝึกอบรมพนักงานมากกว่า 10% ของพนักงานทั้งหมด หรือ มากกว่า 50 คน

1.2.2 เขตส่งเสริมเพื่อกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 50% เพิ่มอีก 5 ปี จากเกณฑ์ปกติ โดยมีเงื่อนไขต้องฝึกอบรมพนักงานมากกว่า 10% ของพนักงานทั้งหมด หรือ มากกว่า 50 คน

1.2.3 เขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม หรือ เขตอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC ได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 50% เพิ่มอีก 3 ปี จากเกณฑ์ปกติ โดยมีเงื่อนไขต้องฝึึกอบรมพนักงานมากกว่า 5% ของพนักงานทั้งหมด หรือ มากกว่า 25 คน

1.3 การพัฒนาบุคลากรใน EEC ตามมติ กนศ. ครั้งที่ 3/2560 : สืบเนื่องจาก คณะกรรมการนโยบายฯ ได้อนุมัติร่างแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาบุคลากรฯ โดยประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยกับแนวทางการพัฒนาด้านพัฒนาบุคลากร ที่ต้องสร้างเยาวชนให้มีความรู้ตรงความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นหลัก และขณะนี้ มีการทำงานร่วมกันในทิศทางเดียวกันของหน่วยงานและสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องทุกระดับ


728x90-03-3-503x62-3-503x62

นอกจากนั้น สงป. และ สกรศ. ได้ร่วมกันปรับปรุงรายละเอียดโครงการที่จำเป็นเร่งด่วนตามวัตถุประสงค์การพัฒนาบุคลากรใน EEC โดยปรับลดเหลือ 15 โครงการ วงเงิน 589 ล้านบาท

ประกาศเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายเพิ่มเติมอีก 19 แห่ง
คณะกรรมการฯ เห็นชอบการประกาศเขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้ง 19 แห่ง ซึ่งมีหลักเกณฑ์การจัดตั้งเขตส่งเสริมครบถ้วนแล้ว ทำให้พื้นที่ใหม่รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายอีก 26,200 ไร่ และประมาณว่า จะรองรับการลงทุนได้กว่า 1.1 ล้านล้านบาท ภายในปี 10 ปีข้างหน้า

เขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 19 แห่ง ประกอบด้วย จ.ระยอง จำนวน 6 แห่ง, จ.ชลบุรี จำนวน 12 แห่ง และ จ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 1 แห่ง นิคมอุตสาหกรรมเหล่านี้ผ่านการศึกษาสิ่งแวดล้อมและเปิดดำเนินการอยู่แล้ว แต่ยังมีที่ดินที่เหลืออยู่ ดังนั้น การพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายใน EEC จึงไม่จำเป็นต้องนำที่ดินอื่น ๆ นอกเขตนิคมอุตสาหกรรมมาประกอบอุตสาหกรรม

คุณสมบัติและเงื่อนไขของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอากาศยานใน EEC
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ร่วมกับ สกรศ. กำหนดคุณสมบัติของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอากาศยานที่เป็นนิติบุคคล ที่มีผู้มีสัญชาติไทยน้อยกว่าร้อยละ 51 ทั้งนี้ เพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินการและสนับสนุนการสร้างคลัสเตอร์อุตสาหกรรมอากาศยานให้เกิดขึ้นใน EEC ดังนี้

1.ต้องเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย
2.มีสำนักงานตั้งอยู่ในราชอาณาจักรไทย
3.มีสถานประกอบการตั้งอยู่ในเขตส่งเสริมของพื้นที่ EEC
4.มีวัตถุประสงค์เพื่อการผลิตอากาศยาน หรือ ส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน หรือ หน่วยซ่อมอากาศยาน
5.ได้รับหรือมีสิทธิในใบรับรองแบบอากาศยาน หรือ ส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานที่ประสงค์จะผลิต (เฉพาะกรณีที่จะผลิต)
6.มีขีดความสามารถที่จะผลิตอากาศยาน ส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน ตามใบรับรองแบบ หรือ มีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงอากาศยาน
7.มีการควบคุมภาพการผลิต หรือ การซ่อม

เงื่อนไขประกอบการพิจารณา จะมีการพิจารณาเงื่อนไขในการพิจารณา 2 เรื่อง คือ ระดับเทคโนโลยีสำคัญที่ต้องการในการพัฒนาอุตสาหกรรมอากาศยานของไทย และแผนในการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการพัฒนาบุคลากรไทย

แผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
ที่ประชุมเห็นชอบร่างแผนการปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐาน ที่จัดทำโดย คณะอนุกรรมการโครงสร้างพื้นฐานฯ (ผู้อำนวยการ สนข. เป็นประธาน) โดยให้เพิ่มเริ่มดิจิทัลและวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แผนปฏิบัติการฯ นี้ มีสาระสำคัญ 2 ประการ

1.1 มุ่งพัฒนาโลจิสติกส์แบบไร้รอยต่อ เชื่อมโยงทั้งทางบก น้ำ อากาศ ในพื้นที่ EEC และพื้นที่ใกล้เคียง

1.1.1 ให้ EEC เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่น่าอยู่อาศัยแห่งหนึ่งของภูมิภาคเอเชีย
1.1.2 ให้ EEC เชื่อมต่อกับกรุงเทพฯ ได้อย่างสมบูรณ์ รวมกันเป็นมหานครขนาดใหญ่ ลดความแออัดของกรุงเทพฯ ในอนาคต โดยประชาชนสามารถเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ และ EEC เข้าสู่กรุงเทพฯ ใน 1 ชั่วโมง ด้วยรถไฟความเร็วสูง และมีสนามบินอู่ตะเภาเสมือนเป็นสนามบินหลักแห่งที่ 3 ของกรุงเทพฯ ช่วยผ่อนคลายความคับคั่งของสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ

1.2 เพื่อให้เกิดผลในการปฏิบัติ แผนนี้ประกอบด้วย โครงการระยะสั้น-กลาง-ยาว 168 โครงการ ในกรอบวงเงินประมาณ 1 ล้านล้านบาท และประมาณว่า การลงทุนจะเป็นเงินงบประมาณร้อยละ 30 งบลงทุนรัฐวิสาหกิจร้อยละ 10 และรัฐร่วมทุนเอกชน (PPP) ร้อยละ 60


TP12-3296-C

แผนปฏิบัติการการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
ที่ประชุมเห็นชอบแผนปฏิบัติการฯ ที่จัดทำโดย คณะอนุกรรมการการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวฯ (ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน) แผนปฏิบัติการนี้ มีสาระสำคัญ 2 ประการ

1.1 มุ่งยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวใน EEC สู่การท่องเที่ยวระดับโลกอย่างยั่งยืน รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี กลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ กลุ่มครอบครัวและนักธุรกิจเพิ่มขึ้น ประมาณว่า ใน 4 ปี เมื่อระบบคมนาคมเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวสมบูรณ์ขึ้น

1.1.1 จะมีนักท่องเที่ยวใน EEC เพิ่มขึ้นเป็น 47 ล้านคน จาก 30 ล้านคน ในปัจจุบัน
1.1.2 ประชาชนได้รายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 5 แสนล้านบาท จาก 3 แสนล้านบาท ในปัจจุบัน

1.2 เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติแผนฯ นี้ จึงได้เสนอโครงการภายใต้แผนฯ 53 โครงการ ในกรอบวงเงินกว่า 30,000 ล้านบาท เป็นเงินงบประมาณร้อยละ 25 งบลงทุนรัฐวิสาหกิจร้อยละ 1 และรัฐร่วมทุนเอกชน (PPP) ร้อยละ 74

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว