ในที่สุด“ศาลฎีกานักการเมือง” ก็ลงดาบโชะฟัน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คุก 5 ปี ในคดีโครงการฉาว “รับจำนำข้าว” ประเด็นที่เป็น “หมัดน็อก” อดีตนายกฯ ก็คือ การระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือที่เรียกว่า “จีทูจีเก๊” ซึ่งศาลฎีกาฯ มีคำวินิจฉัยว่า เป็นการขายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากมีการแอบอ้างสัญญาแบบรัฐต่อรัฐเพื่อนำข้าวมาเวียนขายให้แก่ ผู้ค้าข้าวภายในประเทศ อันเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยทุจริต
ขณะที่ ยิ่งลักษณ์ กลับให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าเป็นการขายแบบรัฐต่อรัฐจริง... พฤติการณ์แสดงให้เห็นว่า ยิ่งลักษณ์ ทราบว่าสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่ระงับยับยั้งปล่อยให้มีการส่งมอบข้าวตามสัญญาให้รัฐวิสาหกิจจีนต่อไปอีก อันเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับผู้อื่น การกระทำของ ยิ่งลักษณ์ จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม) และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ลงโทษจำคุก 5 ปี
“เท่าที่ผมทราบข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศอย่างไม่เป็นทางการ ขณะนี้ไปอยู่ที่ดูไบ”นั่นคือคำเฉลยจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่บอกว่า ยิ่งลักษณ์ หนีไปกบดานอยู่ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย ก็เป็นอีกคนที่หนีโทษจำคุก 2 ปีในคดีที่ดินรัชดาฯ ไปซื้อบ้านปักหลักอยู่ที่ดูไบ เมื่อ ยิ่งลักษณ์ เจอชะตากรรมเดียวกันก็ไม่แปลกที่ ยิ่งลักษณ์ จะไปหลบภัยอยู่ที่ดูไบเพราะทุกอย่างเป็นไปตาม“ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ” นั่นเอง ดังนั้นการที่ ยิ่งลักษณ์ จะไปขอลี้ภัยทางการเมืองอยู่ที่ไหน เป็นที่อังกฤษอย่างที่เป็นข่าวหรือไม่ ก็อยู่ที่ ทักษิณ จะบัญชาการ
ขณะนี้ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ได้จารึกไว้แล้วว่า 2 พี่น้องตะกูลชินวัตร ที่ได้ขึ้นมาเป็นนายกฯ ของประเทศไทย ได้เป็น “นักโทษหนีคดี” และคงต้องหนีไปตลอดชีวิต การจะหวังลมๆ แล้ง ๆ ของ ยิ่งลักษณ์ ว่ายังสามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน ก็คงจะ “ปิดประตูตาย”ตราบที่ยิ่งลักษณ์ไม่มาปรากฏตัวต่อศาลเอง
นี่แค่ “ดาบแรก” สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ยังมี “ดาบสอง” ที่ตามจองเวร นั่นคือ การยึดทรัพย์กว่า 3.5 หมื่นล้านบาท เพื่อชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งอีกไม่นานก็คงมีคำตอบจาก “ศาลปกครอง” ว่ากรณีนี้จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร
บริษัท ดัชมิลล์ฯ ร่วมกับ สมาคมโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทย ร่วมกันจัดกิจกรรมวิ่งออกกำลังกายเพื่อน้อมรำลึกแสดงความอาลัยรักแด่ในหลวง รัชกาลที่ 9 และเพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน เนื่องในวันโรคกระดูกพรุนโลก โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นวันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคมนี้ เวลา 04.00-10.00 น. ณ บริเวณหน้าลานกิจกรรมอเนกประสงค์ ใต้สะพานพระราม 8 กรุงเทพฯ กิจกรรมในงานให้บริการดื่มนมฟรีตรวจสุขภาพเบื้องต้น ตรวจวัดมวลกระดูก และบริการให้คำปรึกษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ด้วยคุณพ่อ ทวี โกวัฒนะ คุณพ่อท่าน เลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ตั้งศพสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศล ณ วัดชลประทานรังสฤษดิ์ ศาลาพิสิษฐ์กุล ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เวลา 19.00 น. จนถึงวันที่ 6 ตุลาคมนี้ กองบรรณาธิการฐานเศรษฐกิจ ขอแสดงความเสียใจ มา ณ โอกาสนี้ด้วย
ขณะเดียวกันขอแสดงความเสียใจกับ ดร.อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน ที่มารดา องุ่น ภู่ชอุ่ม ถึงแก่กรรม ตั้งศพสวดพระอภิธรรม ถึงวันที่ 4 ตุลาคมนี้ เวลา 19.00 น.ณ ศาลา 4 วัดธาตุทอง ถนนสุขุมวิท ส่วนกำหนดการพระราชทานเพลิงศพ จะแจ้งให้ทราบภายหลัง
คอลัมน์ : ฐานโซไซตี / หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ /ฉบับ 3301 ระหว่างวันที่ 1-4 ต.ค.2560