ค้าชายแดนไทย-กัมพูชาบูม พาณิชย์พาเอกชนลุย‘พระตะบอง’หลัง‘ตองยี’โกยยอดขายฉลุย
ค้าชายแดนไทยสุดบูม!สวนทางตลาดยุโรป-อเมริกาฝืด กรมการค้าต่างประเทศ ขนทัพผู้ประกอบนำคาราวานสินค้า ผ่านแดนจันทบุรี บุกพระตะบองกัมพูชา หลังประสบความสำเร็จจาก “ตองยี” เมียนมา ตอกยํ้าความนิยม
หลังจากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ประสบความสำเร็จกับการจัดงานแสดงสินค้าเปิดประตูสู่รัฐฉาน ณ เมืองตองยี ประเทศเมียนมา มีผู้เข้าชมงานและจับจ่ายซื้อสินค้าจากไทยเป็นจำนวนมาก และล่าสุดเมื่อวันที่ 23-27 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา ได้นำผู้ประกอบการและผู้ผลิตสินค้าไทยร่วม 150 ราย ไปจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าในงาน "Thailand Festival @ Battambang" ณ ตลาดปุปุย จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชาซึ่งมีผู้ประกอบการให้ความสนใจไปกับคาราวานในครั้งนี้
ต่อเรื่องนี้นายอรรนพ อุษณกรกุล หนึ่งในผู้ประกอบการไทยจากบริษัท นิวบอร์น เมดิคอล ซัพพลาย จำกัด ผู้ผลิตอาหารเสริมเพื่อสุขภาพจากเห็ดหลินจือและถั่งเช่า กล่าวว่า บริษัทได้นำผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ซึ่งเป็นอาหารเสริมจากเห็ดหลินจือและถั่งเช่า ที่สามารถเพาะได้ในไทย เข้าไปทดลองตลาด แม้ว่าเรื่องอาหารเสริมสุขภาพในตลาดกัมพูชาอาจรู้จักไม่มากนัก แต่มองว่านี่คือโอกาสที่ได้แนะนำ ซึ่งถือว่าได้เปรียบคู่แข่ง
เช่นเดียวกับสินค้าประเภทเสื้อผ้าเด็กของ นายวุฒิ ช้างศิลา และ นางสาววราภรณ์ ช้างศิลา จากบริษัท ซี แอนด์ ซี บิสิเนส (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายเสื้อผ้าเด็กลายการ์ตูนลิขสิทธิ์จากกรุงเทพฯ ที่ขนสินค้ามาร่วมงานจัดแสดงและจัดจำหน่ายในงานนี้เช่นกัน
"จากข้อมูลที่ทราบคือสินค้าเสื้อผ้าที่กัมพูชาจะค่อนข้างขายดี เพราะว่ากัมพูชาชอบสินค้าไทยเป็นส่วนใหญ่ และเสื้อผ้าก็ซื้อจากไทยเป็นส่วนใหญ่ แต่ที่เป็นลายลิขสิทธิ์นั้นยังไม่มี ก็คิดว่าน่าจะมาทำตลาดตรงนี้ มองว่าตลาดที่นี่น่าจะดีกว่าที่บ้านเรา เพราะเศรษฐกิจค่อนข้างดี ซึ่งคาดหวังว่าจะสามารถขยายโอกาสสร้างตลาดที่กัมพูชาได้"
สำหรับสินค้าอุปโภค-บริโภคในครัวเรือนอย่างน้ำยาล้างจาน ผลิตภัณฑ์ซักผ้า ผลิตภัณฑ์ถูพื้น นับเป็นสินค้าอีกกลุ่มที่เข้ามาทำตลาดในกัมพูชาและได้รับความนิยมมาก และแม้จะเป็นหน้าใหม่แต่ นายจรัล ฟาทาน จาก ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) พีเอ็นพีแฟคเจอริ่ง เชื่อมั่นว่าจะสามารถเข้ามาแทรกและยึดพื้นที่ทางการตลาดในกัมพูชาได้ ด้วยคุณภาพสินค้าที่เขาผลิต บวกกับประสบการณ์ในการทำงานกับบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชื่อดังในไทยมาหลายปี
"ที่ผ่านมาทำธุรกิจนี้มาประมาณ 3 ปี เริ่มจากตลาดในบ้านเราก่อน โดยนำไปขายตามศูนย์ราชการ งานโอท็อป หรือออกบูธตามที่รัฐบาลจัด ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก แต่ช่วงหลังตลาดในประเทศเริ่มชะลอตัว จึงคิดจะทำตลาดประเทศเพื่อนบ้านซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ไปเปิดตลาดที่ เมียนมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ซักผ้าและน้ำยาล้างจาน แต่สำหรับกัมพูชานับว่าเป็นครั้งแรก และพบว่าสินค้าไทยที่นี่มีค่อนข้างมาก ซึ่งขึ้นกับผู้บริโภคว่าจะเลือกใช้ของใคร แต่คิดว่าราคาสินค้าของ ผมที่จะทำตลาดได้ดีคือประมาณ 30-50 บาท ข้อดีของตลาดที่นี่คือการยอมรับของผู้บริโภคคือชาวกัมพูชา มีสูงมาก เรียกได้ว่าขอให้เป็นสินค้าไทยจากผู้ผลิตไทยเขาตอบรับดีมาก"
ด้านฝั่งผู้ประกอบการกัมพูชาหรือตัวแทนจำหน่ายสินค้าไทยในกัมพูชาก็ยืนยันถึงกระแสความนิยมในสินค้าไทยที่เข้ามาทำตลาดในกัมพูชาเช่นกัน
ทางด้านประเทศกัมพูชา สอบถาม นายลันดี จากบริษัทคัมพานี คัมโบจูลา ABS จำกัด ผู้ประกอบการชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของผลิตภัณฑ์หมอจุฬาในกัมพูชา เล่าว่า ได้เป็นตัวแทนขายของหมอจุฬาในกัมพูชามา 1 ปี 6 เดือน ซึ่งผลิตภัณฑ์สมุนไพร เป็นที่นิยมมากสำหรับคนกัมพูชาซึ่งส่วนใหญ่ 70% จะเป็นประเภทเครื่องสำอาง นอกนั้นก็เป็นพวกเครื่องอุปโภคบริโภค
"คนกัมพูชาชอบสินค้าไทยมาก เพราะมีคุณภาพ ราคายอมรับได้ สินค้าหมอจุฬาที่นำมาขายจะมียาสีฟัน สบู่ และครีมบำรุง แต่ยาสีฟันนี่ขายดีมาก ตอนนี้ทำตลาดของหมอจุฬาในกัมพูชาไปได้ 20 จังหวัดแล้ว (กัมพูชามี 25 จังหวัด) จังหวัดที่ขายดีมากๆ ก็คือ พระตะบอง เสียมราฐ และบันเตียเมียนเจย การมาร่วมงานครั้งนี้ คาดหวังว่าจะได้เจอพาร์ตเนอร์สินค้าตัวอื่นๆ จากผู้ประกอบการไทยด้วย และจะได้เจอสินค้าอื่นๆ ของหมอจุฬาด้วย"
เช่นเดียวกับ นายโซ ทาวิน เจ้าของบริษัท ทาวิน อิมพอร์ท & เอ็กซ์พอร์ท จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสินค้าไทยรายใหญ่ในกัมพูชา โดยสินค้าที่นำเข้ามาทำตลาดในกัมพูชาและประสบความสำเร็จมาก เช่น น้ำว่านหางจระเข้จากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แอร์ และอะไหล่รถ
สำหรับการนำเข้าน้ำว่านหางจระเข้จากไทย ก่อนน้ำเข้าจะต้องเช็กตลาดก่อนว่าคนกัมพูชาชอบสินค้าตัวไหน แต่โดยภาพรวมคนกัมพูชาชอบสินค้าไทย 80-90% ซึ่งในตลาดกัมพูชาจะพบว่า ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าไทย ที่ผ่านมาสินค้าที่นำเข้าครั้งแรกเป็นรถยนต์จากเกาหลีใต้ แต่ครั้งต่อมาได้นำเข้าน้ำว่านหางจระเข้จากไทย ส่วน น้ำว่านหางจระเข้จากเกาหลี ที่ผ่านมาเขาเคยนำเข้า แต่รสชาติสู้ของไทยไม่ได้ น้ำว่านหางจระเข้ของไทยดีกว่า
"การจัดงานดังกล่าวมีประโยชน์มาก คือช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของ 2 ประเทศ ในงานนี้มีสินค้าที่ผมเล็งไว้อยู่หลายตัว เช่น น้ำลูกสำรอง และผลิตภัณฑ์ซักผ้า น้ำยาล้างจาน สินค้าไทยน่าสนใจ"
ด้านนายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า กรมการค้าต่างประเทศได้เชิญนักธุรกิจจากหอการค้า ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาเข้าร่วมประชุม มีการทำ MOU และจับคู่ธุรกิจ ร่วมกัน โดยผู้ร่วมประชุมฝ่ายไทย ประกอบด้วย ภาครัฐจากกรมการค้าต่างประเทศ จังหวัดจันทบุรี ภาคเอกชนจากหอการค้าจังหวัดจันทบุรี สมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดจันทบุรี และเครือข่ายธุรกิจบิสคลับจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดระยอง ฝ่ายกัมพูชาประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบอง ผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน หอการค้าจังหวัดพระตะบอง และหอการค้าจังหวัดไพลิน ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จดีเยี่ยม ด้วยพื้นฐานความนิยมในสินค้าไทยของประชาชนชาวกัมพูชานั้นถือว่ามีสูงมาก จึงให้ความสนใจมาร่วมจับจ่ายซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมาก
จังหวัดพระตะบอง ถือเป็นจังหวัดใหญ่ลำดับที่ 5 ของกัมพูชาและมีจำนวนประชากรมากเป็นลำดับที่ 4 ของประเทศ และยังได้ชื่อว่าเป็น "ชามข้าวแห่งกัมพูชา" คือเป็นแหล่งปลูกข้าวที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของกัมพูชา สามารถปลูกข้าวเลี้ยงประชาชนชาวกัมพูชาได้ทั้งประเทศ และยังเหลือส่งออกด้วย เศรษฐกิจของจังหวัดพระตะบองในปัจจุบันถือว่ากำลังพัฒนาและมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการค้าชายแดนกับประเทศไทยผ่านทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลมและจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จังหวัดจันทบุรี เป็นมูลค่าสูงเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2558 นั้น ทั้ง 2ด่านมีมูลค่าการค้ารวมกันสูงถึงเกือบ 2 หมื่นล้านบาท อัตราการเติบโต 7.6-8% ในขณะที่ช่วง 7 เดือนแรกของปี 2559 (มกราคม-กรกฎาคม) มูลค่าการค้าชายแดนของทั้ง 2 ด่านรวมกันมีมูลค่ามากกว่า 8,000 ล้านบาทแล้ว คาดว่าเมื่อสิ้นปี 2559 จะมีมูลค่าการค้ารวมกันมากกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,197 วันที่ 2 - 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559