KEY
POINTS
ประเทศไทยปิดฉากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 หรือ SEA Games 2025 ในพิธีปิดที่จัดขึ้น ณ ราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในช่วงค่ำวันที่ 20 ธันวาคม 2568 พร้อมส่งมอบธงการแข่งขันให้ประเทศมาเลเซีย เจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 34 อย่างเป็นทางการ
พิธีปิดการแข่งขันมีร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี โดยมีนายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานสหพันธ์กีฬาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสหพันธ์กีฬาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี จังหวัดสงขลา คณะกรรมการจัดการแข่งขัน นักกีฬา สื่อมวลชน และประชาชน เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
พิธีปิดเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการด้วยการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสา ท่ามกลางเสียงปรบมือและความปลาบปลื้มของผู้ร่วมงาน ก่อนเข้าสู่การแสดงชุดเปิดพิธีภายใต้แนวคิด “The Sound of Whistle…เสียงสะท้อนจากการแข่งขัน” ที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และจิตวิญญาณความเป็นไทย ผ่านศิลปะการแสดงร่วมสมัย
การแสดงดังกล่าวนำโดยสองศิลปินชื่อดัง ต้าห์อู้ พิทยา และ กระแต อาร์สยาม ถ่ายทอดบทเพลง “รักหนักแน่น” ในเวอร์ชัน Marching ชวนผู้ชมทั้งสนามร่วมเป่านกหวีด ปรบมือ และกระทืบเท้าอย่างพร้อมเพรียง สะท้อนพลังของเสียงเชียร์ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของการแข่งขันกีฬา ก่อนต่อเนื่องด้วยการแสดง Battle สุดเร้าใจจากบทเพลง “ละลาย” และ “Bangkok City” ที่ผสมผสานพลังดนตรีเข้ากับภาพลักษณ์ความทันสมัยและความงดงามของประเทศไทยอย่างลงตัว
จากนั้น เป็นขบวนพาเหรดของนักกีฬาจาก 11 ชาติอาเซียน และนักกีฬาจาก 54 ชนิดกีฬา ที่เดินเข้าสู่สนามท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้อง พร้อมการฉายวิดีทัศน์สรุปภาพความประทับใจตลอดระยะเวลาการแข่งขัน ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย สะท้อนมิตรภาพ ความสามัคคี และจิตวิญญาณของกีฬาซีเกมส์อย่างชัดเจน
หนึ่งในช่วงสำคัญของพิธีคือ พิธีดับคบเพลิง โดยเชิญชวนผู้ชมทั้งสนามร่วมกันเป่านกหวีด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทั้งจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ก่อนเข้าสู่พิธีเชิญธงสัญลักษณ์สหพันธ์กีฬาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และธงการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ลงจากยอดเสา
ลำดับต่อมา เป็นพิธีส่งมอบธงสัญลักษณ์สหพันธ์กีฬาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้แก่ประเทศมาเลเซีย เจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 34 พร้อมเชิญธงชาติมาเลเซียขึ้นสู่ยอดเสาอย่างเป็นทางการ ก่อนที่มาเลเซียจะนำเสนอการแสดงพิเศษ ถ่ายทอดอัตลักษณ์ พลังสร้างสรรค์ และความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไป ท่ามกลางความสนใจของผู้ร่วมงานและนักกีฬาจากทุกชาติ
พิธีปิดปิดท้ายด้วยการแสดงชุด “The Sound of Champions…บทเพลงแห่งผู้ชนะ” ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จ ความพยายาม และความภาคภูมิใจของนักกีฬาทุกชาติที่ร่วมสร้างความทรงจำตลอดการแข่งขัน นับเป็นการปิดฉากมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 อย่างสง่างาม
สำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9–20 ธันวาคม 2568 ทัพนักกีฬาไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้า 233 เหรียญทอง 154 เหรียญเงิน และ 112 เหรียญทองแดง ครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 14 และนับเป็นการทวงตำแหน่งเจ้าเหรียญทองกลับคืนมาในรอบ 10 ปี หลังเคยทำได้ครั้งล่าสุดในซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 2015
ความสำเร็จดังกล่าวยังถือเป็นการทำลายสถิติคว้าเหรียญทองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ซีเกมส์ โดยแซงหน้าสถิติเดิมของประเทศเวียดนามที่เคยทำไว้ 205 เหรียญทอง ในซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เมื่อปี 2022 สะท้อนศักยภาพของนักกีฬาไทย ระบบการพัฒนากีฬา และความพร้อมของประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพระดับภูมิภาค
พิธีปิดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จึงไม่เพียงเป็นการปิดฉากการแข่งขันกีฬาเท่านั้น หากแต่เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพที่มีมาตรฐาน สร้างความประทับใจให้กับนานาชาติ และส่งต่อความหวัง ความร่วมมือ และมิตรภาพสู่เจ้าภาพครั้งใหม่อย่างประเทศมาเลเซียต่อไป