SET โค้งท้ายปี 68 แกว่งกรอบแคบ นักลงทุนพักศึก ตลาดเงียบไร้ปัจจัยใหม่

29 ธ.ค. 2568 | 06:30 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ธ.ค. 2568 | 06:30 น.

โบรกส่องหุ้นไทยโค้งสุดท้ายปี 68 แกว่ง Sideway ในกรอบ 1,250 - 1,280 จุด ท่ามกลางบรรยากาศซื้อขายเบาบางช่วงหยุดยาวปีใหม่ และตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆหนุน แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นได้อานิสงส์จากเงินบาทแข็งค่า

KEY

POINTS

  • ตลาดหุ้นไทย (SET) ช่วงท้ายปี 2568 ถูกประเมินว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1,250-1,280 จุด
  • บรรยากาศการลงทุนซบเซาและมีปริมาณการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่
  • ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน ขณะที่ต้องเผชิญทั้งปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ และปัจจัยลบด้านความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์และปัญหาหนี้เสีย (NPL) ในประเทศ

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568 ยังคงเคลื่อนไหวจำกัด โดยคาดว่าดัชนี SET แกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้างในกรอบ 1,250 - 1,280 จุด

ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยใหม่หนุน ประกอบกับนักลงทุนจำนวนมากเข้าสู่ช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่

ขณะที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้รายงานผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ว่า จะมีเงินสะพัด 111,609.37 ล้านบาท ขยายตัว 2.1% นับเป็นมูลค่าการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสูงสุดในรอบ 6 ปีนับตั้งแต่ปี 2564

ด้านกระทรวงการคลังเปิดตัวเลขการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2569 ตั้งแต่เดือน ต.ค. - พ.ย. 2568 มีรายได้รวม 492,177 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 12,288 ล้านบาท หรือ 2.6% และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.4%

ด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯ โตเหนือความคาดหมายสะท้อนความแข็งแกร่งของการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ โดยตัวเลข GDP ในไตรมาส 3/2568 มีการขยายตัวถึง 4.3% ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่โดดเด่นและสูงกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจ สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ในช่วงเวลาเดียวกัน

ส่วนปัจจัยลบที่อาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนและเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะปัญหาทางการเมืองในประเทศของสหรัฐฯ ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่า สหรัฐฯ เตรียมเปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินเพื่อถล่มเป้าหมายขบวนการค้ายาเสพติดในลาตินอเมริกา

โดย 'ทรัมป์' กล่าวระหว่างส่งคำอวยพรคริสต์มาสแก่เหล่าทัพ ประกอบกับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 214,000 ราย ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 232,000 ราย สะท้อนตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง

ขณะเดียวกันทางคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เข้าควบคุมการทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลพื้นสู่อากาศ ณ ฐานยิงชายฝั่งตะวันออก พร้อมตรวจงานก่อสร้างเรือดำน้ำนิวเคลียร์ขนาด 8,700 ตัน ที่สามารถติดตั้งขีปนาวุธได้

นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังประสบปัญหา NPL ที่อยู่ในระดับสูงมานานต่อเนื่อง โดยทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าจากข้อมูลเครดิตบูโรมีหนี้ค้างชำระเกินกว่า 90 วันของบัญชีสินเชื่อธุรกิจ (NPL) ขยับขึ้นจาก 3.72% ในไตรมาส 1 ปี 2568 เป็น 3.94% ในไตรมาส 2 ปี 2568 ซึ่งยังถือว่าเป็นระดับที่แย่กว่าจุดที่ดีที่สุดในรอบ 1 ปีหลังโควิด-19

ปัจจัยในประเทศที่ต้องเฝ้าระวัง

  • สัปดาห์ที่ 4 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
  • วันที่ 29 ธ.ค. กระทรวงการคลัง รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง
  • วันที่ 30 ธ.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องจับตา

  • วันที่ 29 ธ.ค. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงาน Summary of Opinions สหรัฐ รายงานยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนพ.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
  • วันที่ 30 ธ.ค. สหรัฐ รายงานราคาบ้านเดือนต.ค.
  • วันที่ 31 ธ.ค. คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุม วันที่ 9-10 ธ.ค., จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการเดือนธ.ค. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

ชี้หุ้นรับอานิสงส์บาทแข็งเด่น

นายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าส่งท้ายปี 2568 โดยหุ้นที่ถูกจับตามอง ได้แก่ ADVICE, COM7, SYNEX, SIS, GULF, BGRIM และ GPSC เป็นต้น