KEY
POINTS
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ ‘ฐานเศรษฐกิจ’ ว่า ทิศทางการลงทุนตลาดหุ้นไทยปี 2569 ต้องเริ่มจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังเติบโตจำกัด หลายหน่วยงานประเมินจีดีพีไทยอาจขยายตัวเพียง 1–2%
หลักๆ เป็นผลมาจากจากปัจจัยกดดันด้านการบริโภคที่โตเพียง 2–3% เมื่อเทียบช่วงเดีนกับปีก่อน ลดลงจากช่วงก่อนหน้าที่เคยขยายตัว 5–6% ขณะที่การส่งออกยังทรงตัวบนฐานสูง และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2569 คาดอยู่ที่ประมาณ 35 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6% แต่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิดที่ 39.8 ล้านคน
ทั้งนี้ ยังพอมีโอกาสเกิดปัจจัยบวกเพิ่มขึ้นจากกรณีที่รัฐบาลจีนขอความร่วมมือประชาชนลดการเดินทางไปญี่ปุ่น ซึ่งอาจเป็นแรงผลักให้นักท่องเที่ยวจีนเลือกเดินทางมาไทยมากขึ้น หนุนธีมการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ การเลือกตั้ง และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยหุ้นเด่นที่ฝ่ายวิเคราะห์แนะนำ ได้แก่ CPALL, CPN และ SCB ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยว AOT, MINT, CENTEL รวมถึงกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม AMATA และ WHA จะได้รับประโยชน์จากดีมานด์ของโครงการ Data Center ที่เพิ่มขึ้น สำหรับกรอบดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปี 2569 คาดอยู่ในช่วง 1,050 - 1,400 จุด บนสมมติฐาน EPS 95 บาทต่อหุ้น
ขณะที่ตลาดต่างประเทศยังให้น้ำหนักสหรัฐฯ เป็นอันดับแรก จากธีมเทคโนโลยีที่เติบโตต่อเนื่อง ผู้เล่นรายใหญ่ทั้ง Alphabet, Microsoft และ AWS ส่งสัญญาณชัดเจนว่าความต้องการ Data Center ยังขยายตัว ทำให้ดีมานด์ด้าน GPU และ Semiconductor เพิ่มขึ้น หนุนหุ้นอย่าง NVIDIA, AMD, TSMC รวมถึงผู้พัฒนาเทคโนโลยีรายใหญ่
หุ้นต่างประเทศที่เลือกเป็น Top Pick ได้แก่ NVDA03 และ GOOGL03 (DR จาก PI) โดยยังไม่มองว่าจะเกิดภาวะ Technology Bubble ในระยะใกล้ แม้ค่า Valuation ไม่ได้ถูก แต่ยังไม่สูงเกินระดับ และได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตของกำไรที่ต่อเนื่อง