ปิดตลาดหุ้นไทยร่วง 27.41 จุด โบรกเตือนสัปดาห์หน้าสี่ยงลงต่อถึง 1,220 จุด

21 พ.ย. 2568 | 10:17 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ย. 2568 | 10:17 น.

ตลาดหุ้นไทยปิดแดนลบ 1,254.40 จุด ลดลง 27.41 จุด มูลค่าซื้อขาย 3.6 หมื่นล้าน กูรูชี้สัปดาห์หน้าใโอกาสเห็นการซึมตัวลงต่อ วางกรอบแนวรับสำคัญ 1,220-1,230 จุด

KEY

POINTS

  • ตลาดหุ้นไทยปิดทำการร่วงลง 27.41 จุด มาอยู่ที่ระดับ 1,254.40 จุด
  • สาเหตุหลักมาจากปัจจัยลบของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีความเสี่ยงปรับฐาน และความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ
  • นักวิเคราะห์เตือนว่าสัปดาห์หน้าดัชนีมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงต่อ โดยประเมินแนวรับสำคัญไว้ที่ 1,220-1,230 จุด

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 พ.ย. 68) ปิดตลาดที่ระดับ 1,254.40 จุด ลดลง 27.41 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 2.14% จากปิดตลาดก่อนหน้า ในช่วงระหว่างวันดัชนีแกว่งตัวในกรอบสูงสุดและต่ำสุดที่ระดับ 1,272.31-1,248.89 จุด โดยมีมูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 36,090.12 ล้านบาท

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 พ.ย. 68) หลักๆ เป็นผลกระทบจากบรรยากาศการลงทุนของตลาดหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐฯ

โดยภาพทางเทคนิคของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับแย่ลงต่อเนื่อง ดัชนีสำคัญทั้ง 3 ปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10, 25, 50 และล่าสุดหลุด 89 วัน และเริ่มทยอยหลุดเส้นแนวโน้มขาขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ความเสี่ยงปรับฐานสูงขึ้น

ปัจจัยดังกล่าวอาจฉุดบรรยากาศลงทุนของสินทรัพย์เสี่ยง หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึงตลาดหุ้นอื่นๆ และตลาดหุ้นไทยวันนี้ แม้ว่าในช่วงระหว่างวันดัชนีจะพยายามยืนเหนือระดับ 1,265 จุด แต่ไม่อาจต้านได้จึงไหลลงไปอย่างต่อเนื่อง เป็นการหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 89 วัน จะเปิดความเสี่ยงทางลงถึง 1,220-1,230 จุด ได้

นอกจากนี้ ปัจัยในประเทศก็มีผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในสุดสัปดาห์นี้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของการยุบสภา การเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ รวมถึงนโยบายการลงทุนและการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐ

ดังนั้น ด้วยบรรยากาศระยะสั้นที่จะเพิ่มความเสี่ยงทางลง ควรกำหนดจุดตัดขาดทุนและลดขนาดหรือน้ำหนักของการเก็งกำไรต่อครั้งลง และเริ่มใช้มาตรการควบคุมความเสี่ยงผ่านการกำหนดจุดตัดขาดทุน (stop loss)

ทั้งนี้ ทางฝ่ายคาดการณ์ว่าในสัปดาห์หน้า (24-28 พ.ย. 68) SET Index มีโอกาสที่จะซึมตัวลงต่อ เนื่องจากหลุดแล้วรับสำคัญไป เริ่มเห็นสัญญาณการขายทำกำไรออกมา (Take Profit) และประเมินกรอบแนวรับสำคัญถัดไปที่ระดับ 1,220-1,230 จุด 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เน้นหุ้นที่ยังขึ้นไม่มาก และมีแนวโน้มกำไรดีต่อเนื่องในช่วง 2 ไตรมาสข้างหน้า ได้แก่

  1. ท่องเที่ยว ไทย AOT, AWC, CENTEL, MINT, DUSIT
  2. กลุ่มสนามบิน / สายการบิน AOT (ปรับลดสัญญารายได้ เข้าบอร์ด ปลาย พ.ย.), THAI, BA, AAV (ไฮซีซันท่องเที่ยว และน้ำมันลง)
  3. การแพทย์ BDMS, BH, BCH, RAM (ไฮซีซันไตรมาส 4-1)