KEY
POINTS
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และบริษัทย่อย ได้มีการรายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 3/68 และรอบ 9 เดือนของปี 68 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ครบทุกบริษัท
ทั้งนี้ “ฐานเศรษฐกิจ” จะพาไปสำรวจผลงานของกลุ่ม ปตท. ว่าเป็นอย่างไร บริษัทไหนกำไร หรือขาดทุน
PTT กำไร 1.9 หมื่นล้านไตรมาส 3/68
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิจำนวน 19,784 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,460 ล้านบาท หรือ 21.2% จากในไตรมาส 3/67 ที่จำนวน 16,324 ล้านบาท ตาม EBITDA ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับ มีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ(Non-recurring Items) สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นผลกำไรประมาณ 900 ล้านบาท
โดยหลักจากกำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้ของ TOP และ GC ขณะที่ในไตรมาส 3/67 มีผลขาดทุนประมาณ 9,500 ล้านบาท โดยหลักจากส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัท พีทีทีอาซาฮีเคมิคอล จำกัด (PTTAC) จากการด้อยค่าสินทรัพย์
ขณะที่ไตรมาส 3/68 ปตท. และ บริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้จำนวน 85,769 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,877 ล้านบาท หรือ 24.5% จากในไตรมาส 3/67 ที่จำนวน 68,892 ล้านบาท โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
ส่วน 9 เดือน ปี 68 ปตท. และ บริษัทย่อยมี EBITDA จำนวน 257,957 ล้านบาท ลดลงจำนวน 44,986 ล้านบาท หรือ 14.8% จาก 9 เดือน ปี 67 จำนวน 302,943 ล้านบาท โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม มีผลการดำเนินงานลดลงจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง ส่งผลให้ 9 เดือน ปี 68 ปตท. และ บริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 64,632 ล้านบาท ลดลง 16,129 ล้านบาท หรือ 20.0% จาก 9 เดือน ปี 67 ที่มีกำไรสุทธิจำนวน 80,761 ล้านบาท
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ (OR) ไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ 2,614, ล้านบาท เพิ่มขึ้น 262.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 1,608.75 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 9,225.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4,650.94 ล้านบาท โดยมีรายได้ขายและบริการ 153,600 ล้านบาท ลดลง 13,566 ล้านบาท หรือ ลดลง 8.1% จากไตรมาสก่อน มี EBITDA จำนวน 4,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 326 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 7.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจ Mobility ที่กำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหลักจากดีเซลและเบนซิน
บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ 1,742 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 972 ล้านบาท หรือ 126% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากรายได้อื่น และ กำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนงวด 9 เดือน ปี 68 มีกำไรสุทธิ 4,901.16 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,062.61 ล้านบาท หลังรายได้และค่าใช้จ่ายอื่น อยู่ที่ 1,076 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 756 ล้านบาท หรือ 236% จากการรับรู้กำไรจากการขายหุ้น 3.03% ในบริษัท Avaada Energy Private Limited (AEPL)
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ 2,147 ล้านบาท และ 9 เดือน ปี 68 มีกำไรสุทธิ 12,126 ล้านบาท โดยกําไรสุทธิเพิ่มขึ้น 4,934 ล้านบาทจากปีก่อน แม้อัตรากำลังการกลั่นลดลง เพราะหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ แต่ได้แรงหนุนจากกำไรพิเศษจากบริษัทร่วม PT Chandra Asri Petrochemical (CAP) ที่มีกำไรจากการเข้าซื้อกิจการในสิงคโปร์จํานวน 7,044 ล้านบาท และ กําไรจากการซื้อหุ้นกู้คืนจํานวน 4,067 ล้านบาท
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ในไตรมาส 3/68 มีผลขาดทุนสุทธิ 2,915 ล้านบาท แต่เป็นการขาดทุนลดลง 85% จากกลุ่ม Vencore เข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ และ การควบคุมค่าใช้จ่าย ส่งผล 9 เดือน ขาดทุนสุทธิลดลงอยู่ที่ 9,098 ล้านบาท
ส่วนงวด 9 เดือนแรก มีผลขาดทุนสุทธิ 9,098.70 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 50% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 18,072.42 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นกลางมีผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะจากผลิตภัณฑ์โมโนเอทิลีนไกลคอล โดยมีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น จากการที่โรงงานกลับมาเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต หลังช่วงปิดซ่อมบำรุงในไตรมาสก่อนหน้า รวมถึงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์โมโนเอทิลีนไกลคอลที่ปรับตัวดีขึ้น
บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ 340 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/68 ที่มีขาดทุนสุทธิ 2,132 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายสุทธิ 57,938 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,136 ล้านบาท หรือ 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
ซึ่งมีสาเหตุหลักจากราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น และ ปริมาณขายเพิ่มขึ้น 1% สำหรับงวด 9 เดือน ปี 68 มีรายได้จากการขายสุทธิจำนวน 176,964 ล้านบาท จากราคาขายเฉลี่ยลดลง 15% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง และ ปริมาณขายลดลง 4% และ มี EBITDA จำนวน 4,848 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังบันทึกค่าเสื่อมราคา 7,049 ล้านบาท โดยหลักเป็นผลจากสินทรัพย์ที่เพิ่มจากโครงการ Ultra Clean Fuel (UCF) ส่งผล 9 เดือน ปี 68 บันทึกขาดทุนจากการลงทุนจำนวน 215 ล้านบาท ส่งผลให้ในงวด 9 เดือน ปี 68 บันทึกผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 2,998 ล้านบาท น้อยกว่างวดเดียวกันของปีก่อน 1,070 ล้านบาท
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ในไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ 12,695 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 17,864.57 ล้านบาท
ส่วน 9 เดือน ปี 68 มีรายได้รวม 220,503 ล้านบาท มีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยอยู่ที่ 499,925 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 67 โดยส่วนใหญ่มาจากโครงการในไทย เช่น โครงการ G1/61 ที่เพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติในเดือนมีนาคม 67 และ โครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย เอ 18 ที่บริษัทเข้าร่วมลงทุนเมื่อเดือนกรกฎาคม 68 ในขณะที่ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก มาอยู่ที่ 44.27 ดอลลาร์สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 42,761 ล้านบาท
บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ในไตรมาส 3/68 มีผลขาดทุนสุทธิ 384 ล้านบาท หลังรับรู้ค่าใช้จ่ายรายการพิเศษ 231 ล้านบาท และ ต้นทุนเอทานอลสูงขึ้นส่งผลให้มีผลขาดทุนสุทธิ จากการดำเนินงานในไตรมาสนี้ 154 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังรับรู้ค่าใช้จ่ายรายการพิเศษ จำนวน 231 ล้านบาท โดยเป็นการพิจารณาตามหลักการบัญชีในการปรับลดการบันทึกมูลค่ายุติธรรมของที่ดินที่ถูกนำมาจำนอง ที่ไม่กระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัทฯ
ขณะที่ผลการดำเนินงาน 9 เดือน ปี 68 มีรายได้จากการขาย 15,214 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ Adjusted EBITDA อยู่ที่ 568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนและการดำเนินงานที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม หากพิจารณารวมผลการดำเนินงานจากบริษัทร่วมทุน บริษัทยังคงรับรู้ผลขาดทุนจากบริษัทร่วมทุน 593 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจเอทานอลที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น จึงส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรก ปี 68 มีผลขาดทุนสุทธิรวมทั้งสิ้น 759 ล้านบาท