SAMART โชว์รายได้ไตรมาส 3 โตต่อเนื่องแตะ 2.5 พันล้าน กำไรหลักพุ่ง 76%

14 พ.ย. 2568 | 03:15 น.
อัปเดตล่าสุด :16 พ.ย. 2568 | 13:26 น.

SAMART โชว์ไตรมาส 3 ฟื้นแรง Core Profit พุ่ง 76% ย้ำงบตั้งสำรองคดีความ 130 ล้าน ไม่สะเทือน SAMTEL ชู 9 เดือนแรกปี 68 งานในมือทะลุ 8 พันล้าน

KEY

POINTS

  • SAMART เผยผลประกอบการไตรมาส 3/2568 มีรายได้รวม 2,541 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงาน (Core Profit) 161 ล้านบาท เติบโตขึ้น 76%
  • แม้กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 87 ล้านบาท เนื่องจากการตั้งสำรองทางบัญชีของบริษัทลูกจำนวน 130 ล้านบาท แต่ผลการดำเนินงานโดยรวมยังคงแข็งแกร่ง
  • การเติบโตมาจากทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ ทั้งสาย Digital ICT, Utilities and Transportations และ Digital Communications ที่มีผลงานเป็นบวก
  • ภาพรวม 9 เดือนแรกของปีมีรายได้ 7,774 ล้านบาท เติบโต 20% และมีกำไร 302 ล้านบาท สะท้อนการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 ของกลุ่มสามารถ เป็นที่น่าพอใจ มีรายได้รวม 2,541 ล้านบาท เติบโตจากทั้งไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่กำไรจากการดำเนินงาน (Core Profit) พุ่งขึ้นถึง 76% หรือแตะ 161 ล้านบาท สะท้อนประสิทธิภาพการบริหารและการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ ทั้งนี้ แม้กำไรสุทธิ (Net Profit) จะอยู่ที่ 87 ล้านบาท เนื่องมาจากการตั้งสำรองทางบัญชีจำนวน 130 ล้านบาท ของบริษัทลูก

แต่เมื่อพิจารณาจากผลการดำเนินงานหลัก พบว่าธุรกิจโดยรวมยังคงแข็งแกร่งและเติบโต รวม 9 เดือน มีรายได้แล้วถึง 7,774 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และมีกำไรถึง 302 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วที่ติดลบ 37 ล้านบาท 
 

SAMTEL มั่นใจคดีไม่มีผลต่อธุรกิจ

สายธุรกิจ Digital ICT Solution หรือ SAMTEL มีรายได้ไตรมาส 3 ที่ 1,235 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ 1,005 ล้านบาท และสูงกว่าปีก่อนที่ 859 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน (Core Profit) ที่ 63 ล้านบาท และจากการตั้งสำรองคดีความจำนวน 130 ล้านบาท

จึงส่งผลให้ผลประกอบการรวมขาดทุนในไตรมาสนี้  แต่ถึงอย่างไร ภาพรวม SAMTEL ก็ยังมีผลงานเด่น มีโอกาสสร้างรายได้ต่อเนื่อง โดย 9 เดือนมีการเซ็นสัญญาถึง 85 โครงการ ส่งผลให้มีงานในมือแล้วเกือบ 8,000 ล้านบาท 

จากการที่บริษัทตั้งสำรองคดีความไว้ เพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทถูกต้องตามมาตรฐานบัญชี ซึ่งยึดถือหลักความระมัดระวังเป็นสำคัญ ซึ่งการตั้งประมาณการหนี้สินไว้ ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานและกระแสเงินสดของบริษัทแต่อย่างใด

บริษัทมีความมั่นใจว่าการตั้งสำรองในครั้งนี้จะได้รับการย้อนกลับรายการการตั้งสำรองจากคดีความดังกล่าวในการพิจารณาคดีรอบถัดไป 

วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART

สายธุรกิจอื่นๆ ยังสร้างผลงานเชิงบวก

สายธุรกิจ Utilities and Transportations นำโดย บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV ดำเนินธุรกิจด้านการให้บริการจัดการการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชา มีกำไรสุทธิ 128 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน และคาดว่าไตรมาส 4 จะเติบโตต่อเนื่องจากการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season)

ด้านธุรกิจก่อสร้างโครงการสายส่งสถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบครบวงจรภายใต้ บริษัท เทด้า จำกัด  (TEDA) มีรายได้เฉพาะไตรมาส 3 จำนวน 244 ล้านบาท รวม 3 ไตรมาส มีรายได้ทะลุ 1,264 ล้านบาท ล่าสุดเซ็นสัญญาโครงการใหญ่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,400 ล้านบาท  ส่งผลให้มีงานในมือรวมเกือบ 4,000 ล้านบาท

สายธุรกิจ Digital Communications หรือ SDC ตลอด 9 เดือน มีรายได้รวม 424 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 50 ล้านบาทในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 900% สะท้อนการดำเนินงานที่แข็งแรงมากขึ้น

ผลประกอบการไตรมาส 3 ถือเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของทุกหน่วยกลุ่มธุรกิจในเครือ แม้มีรายการพิเศษด้านบัญชีจากการตั้งสำรองบางส่วน แต่กำไรหลักของกลุ่มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบไตรมาส 3 ปีที่แล้ว และคาดว่าไตรมาส 4 จะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนขึ้น จากฤดูกาลท่องเที่ยวและโครงการใหม่ที่จะทยอยรับรู้รายได้ต่อไป รวมไปถึงช่วงไตรมาส 4 ที่บริษัทในเครือจะมีเข้าประมูลงานประมูลอีกมาก