หุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวออกข้าง กรอบ 1,290 - 1,320 จุด ยังรอยุติชัดดาวน์สหรัฐฯ

12 พ.ย. 2568 | 03:10 น.
อัปเดตล่าสุด :12 พ.ย. 2568 | 03:10 น.

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,290 - 1,320 จุด โอกาสการกลับมาเปิดของหน่วยงานรัฐฯสหรัฐฯสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจทยอยรายงานได้ โดยคาดจะเป็นข้อมูลสำคัญที่หนุน FED ลดดอกเบี้ย ธ.ค. เพิ่มแรงเก็งสินทรัพย์เสี่ยง

KEY

POINTS

  • คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) จะเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวออกข้าง (Sideways) ในกรอบ 1,290 - 1,320 จุด
  • ตลาดกำลังรอความชัดเจนในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของสหรัฐฯ เพื่อยุติการปิดหน่วยงานภาครัฐ (Shutdown)
  • หากการ Shutdown ยุติลง คาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะประกาศตามมา อาจสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) วิเคราะห์หุ้นไทยวันนี้ (12 พ.ย. 68) ว่า ประเมิน SET Index มีแนวโน้มแกว่งตัวแบบ Sideways ในกรอบ 1,290 - 1,320 จุด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง ด้วยแรงหนุนจากความคาดหวังการกลับมาเปิดของหน่วยงานรัฐฯอีกครั้ง หลังจากที่ทางด้านวุฒิสภา ได้ผ่านร่างผ่านกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ซึ่งต่อจากนี้จะขึ้นอยู่กับสภาผู้แทนฯ ที่เตรียมกลับมาพิจารณาร่างดังกล่าว

โดยมีโอกาสเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะทำให้หน่วยงานภาครัฐฯส่วนใหญ่กลับมาเปิดได้ถึง 30 ม.ค. และบางหน่วยงานถึง 30 ก.ย. ปีหน้า หากผ่านความเห็นชอบ ร่างกฎหมายจะถูกส่งไปที่ประธานาธิบดี Donald Trump ซึ่งได้แสดงท่าทีการสนับสนุนแล้ว

โอกาสยุติชัดดาวน์มากขึ้น หนุนความคาดหวังที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ค้างไว้จะทยอยรายงานออกมา โดยหากพิจารณาข้อมูลในอดีตในช่วงปี 2013 ซึ่งเป็นครั้งล่าสุดที่การปิดหน่วยงานรัฐฯกระทบรายงานการจ้างงาน โดยรัฐบาลกลับมาเปิดได้เมือ 17 ต.ค. และรายงานการจ้างงานถูกเผยแพร่ในอีก 5 วันถัดไป

ดังนั้น ถ้าอ้างอิงจากเหตุการณ์ในอดีต และคาดการณ์ว่ากระบวนการรอบนี้จะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ เราอาจจะได้เห็นการรายงานตัวเลขภาคแรงงานทยอยออกมาในช่วง 1 - 2 สัปดาห์หน ซึ่งคาดว่าตัวเลขดังกล่าวน่าจะเป็นแรงสนับสนุนให้ FED ตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยในช่วงเดือน ธ.ค. นี้

ถือเป็นแรงหนุนต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง ดังนั้นทางฝ่ายยังมองจังหวะย่อตัวของตลาดเป็นโอกาสในการทยอยสะสม

ปัจจัยที่ต้องจับตา

13 พ.ย. 68

  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย
  • ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ US
  • ดัชนีเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ
  • ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยูโรโซน

หุ้นเด่นแนะนำ

AMATA ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 22.00 บาท

  • รายงานกำไรไตรมาส 3/68 ที่ 1,139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 714% จากไตรมาสก่อน เติบโต 49% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ดีกว่าตลาดคาด 8% แรงหนุนจากการโอนที่ดินทีเร่งขึ้น, อัตรากำไรขั้นต้นของการขายที่ดินที่สูงกว่าคาด (47.5% เทียบไตรมาส 2/68 ที่ 46.9%) และ ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี โดย SG&A to sales ที่ลดลงมาที่ 9% จาก 15.8% ในไตรมาส 2/68
  • คาดยอด Presale ไตรมาส 4/68 จะเร่งขึ้นหลังไทยและสหรัฐฯมีการลงนามข้อตกลงการค้าเพิ่มเติม ในขณะที่ Valuation ปัจจุบันเทรดเพียง PE 6.1 เท่า