DELTA โชว์กำไรไตรมาส 3/68 พุ่ง 7.44 พันล้าน โต 26% จากปีก่อน

24 ต.ค. 2568 | 12:30 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ต.ค. 2568 | 12:30 น.

DELTA ประกาศผลงานไตรมาส 3/68 กำไรแตะ 7.44 พันล้าน เติบโต 26% จากปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 61% จากไตรมาสก่อน รับอานิสงส์ดีมานด์ที่เร่งตัวขึ้นสำหรับแอปพลิเคชัน AI

KEY

POINTS

  • DELTA รายงานกำไรไตรมาส 3/68 ที่ 7,441 ล้านบาท โต 25.89% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 60.8% จากไตรมาสก่อน
  • การเติบโตมีปัจจัยหนุนหลักจากกลุ่มธุรกิจเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์และดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากความต้องการของตลาดปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เร่งตัวขึ้น
  • ยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 23.1% จากปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นมาอยู่ที่ 28.3% จากการขายสินค้ามาร์จิ้นสูงและการบริหารสต็อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
  • อย่างไรก็ตาม กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบกำลังไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) มียอดขายปรับตัวลดลงจากอุปสงค์ที่อ่อนตัวในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ

บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA รายงานผลการดำเนินงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ในไตรมาส 3/2568 บริษัทมีกำไรอยู่ที่ 7,441.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.89% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 5,910.90 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 60.8% จากไตรมาสก่อนที่มีกำไร 4,629 ล้านบาท

โดยยอดขายสินค้าและบริการในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 53,214 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโต 19.6% จากไตรมาสก่อน ถือเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นจากการขับเคลื่อนโดยกลุ่มธุรกิจเพาเวอร์อิเล็กทรนิกส์ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน และกลุ่มโซลูชั่นระบบอัตโนมัติ

ทั้งนี้ สินค้าหลักระบบกำลังไฟสำหรับเซิร์ฟเวอร์เน็ทเวอร์คกิ้ง และดาต้าเซ็นเตอร์ (Server and Networking Power, Datacenter Power) ถือเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์สำคัญที่เติบโตแข็งแกร่งตั้งแต่ต้นปี 2568 มาจนถึงไตรมาสปัจจุบัน

สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ที่ขับเคลื่อน โดยปัญญาประดิษฐ์อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการของตลาดมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน คือการเพิ่มกำลังไฟและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เพื่อรองรับการประมวลผลของ AI

นอกจากนี้ บริษัทได้รับคำสั่งซื้อจำนวนมากจากดีมานด์ที่เร่งตัวขึ้นสำหรับแอปพลิเคชัน AI ส่งผลให้มีการพัฒนาโซลูชั่นพลังงานสมรรถนะสูงเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานทั้งในส่วนของโครงงานดาต้าเซ็นเตอร์ โซลูชั่นพลังงานโทรคมนาคม โซลูชั่นเครือข่าย

และโซลูชั่นระบบระบายความร้อนงานสารสนเทศ รวมถึงโซลูชั่นระบบบอัตโนมัติภาคอุตสาหกรรมและอาคารอัจฉริยะล้วนมีการเติบโตที่ดีในไตรมาสนี้

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบกำลังไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้ายังเผชิญกับความท้าทายของสภาวะอุปสงค์อ่อนตัว ส่งผลให้ยอดขายปรับตัวลดลง ท่ามกลางความผันผวนของอุตสาหกรรม EV ทั้งในตลาดยุโรปและสหรัฐ

สำหรับกำไรขั้นต้นในไตรมาส 3/2568 มีจำนวน 15,085 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 26.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 35.8% จากไตรมาสก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นไตรมาสนี้อยู่ที่ 28.3% สูงขึ้นจากไตรมาสที่แล้วและช่วงเดียวกันของปีก่อน

เนื่องจากการเติบโตของยอดขายในกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรดี ควบคู่กับประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง ทำให้สามารถกลับรายการตั้งสำรองมูลค่าสินค้าคงคลังได้ปริมาณมากในไตรมาสนี้